การดูแลปั๊มพ์น้ำของอ่างน้ำร้อน Outdoor ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- โดย Q&G
- •
- 15 ก.ย., 2565
- •
อ่างน้ำร้อน OUTDOOR ที่ใช้สำหรับภายนอกบ้าน มีขั้นตอนการดูแลปั๊มพ์น้ำอย่างไร ไปติดตามกันได้เลยครับ

เรามาทำความรู้จักกับระบบปั๊มพ์ภายในอ่างน้ำร้อน Outdoor กันก่อนนะครับ โดยจะมีการติดตั้งใช้งานปั๊มพ์ทั้งหมด 3 ประเภท คือ
- ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ Circulation pump
- ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท หรือ ปั๊มพ์นวด Jet pump
- ปั๊มพ์ระบบนวดลม หรือ Blower pump

หน้าที่การทำงานของปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ คือ การสูบน้ำเข้าสู่ระบบกรอง ระบบฮีทเตอร์ทำความร้อน ระบบโอโซน จากนั้นจึงจ่ายน้ำกลับเข้ามาในอ่าง ซึ่งปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้น้ำในอ่างใสสะอาด ด้วยการสูบน้ำเข้าสู่ระบบกรองและระบบโอโซนฆ่าเชื้อโรค รวมไปถึงส่งผลต่อเรื่องระบบทำน้ำอุ่นของอ่างน้ำร้อนอีกด้วย หากปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำมีปัญหา มีการทำงานที่ไม่ปกติ หรือ หยุดการทำงาน จะส่งผลให้น้ำในอ่างสกปรก และ ไม่สามารถที่จะสร้างอุณหภูมิน้ำอุ่นตามที่ลูกค้าต้องการได้
ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำภายในอ่างน้ำร้อนเป็นปั๊มพ์ขนาดเล็ก มีราคาจำหน่ายที่ต่ำ มีอัตราการในส่งน้ำที่ต่ำกว่า ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำออกแบบมาเพื่อการทำงานต่อเนื่อง สามารถที่จะทำการสูบน้ำและจ่ายกลับได้ในระยะเวลายาวนาน อาทิ การทำงานต่อเนื่อง 6 - 12 ชั่วโมง ( ขึ้นอยู่กับขนาดอ่างน้ำร้อน) เพื่อทำหน้าที่ในการกรองน้ำของอ่างน้ำร้อนทุกวัน เป็นต้น
การทำงานของปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ สามารถที่จะตั้งค่าให้มีการทำงานแบบอัตโนมัติ ผ่านการตั้งค่าบนปุ่มกดแบบสัมผัส ที่เป็นปุ่มควบคุมของอ่างน้ำร้อน เมื่อทำการตั้งค่าแล้ว ปั๊มพ์จะทำงานด้วยตัวเอง ตามช่วงระยะเวลาที่ลูกค้าได้ทำการตั้งค่าไว้ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องมาคอยกดสั่งให้ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำทำงาน โดยขณะที่ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำทำงาน จะมีปุ่มแสดงผลบนหน้าจอ ให้ลูกค้าทราบว่าปั๊มพ์กำลังทำงานอยู่ ขณะที่ปั๊มพ์หมุมนเวียนน้ำทำงานลูกค้าสามารถสังเกตุเห็น บนพื้นผิวน้ำจะมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยภายในอ่างน้ำร้อน

ส่วนหน้าที่การทำงานของปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท เป็นปั๊มพ์น้ำที่ทางผู้ผลิตติดตั้งมาเพื่อเป็นเครื่องจักรในการสร้างแรงดันของระบบนวดเจ็ท โดยปั๊มพ์หนึ่งตัว จะสามารถสร้างแรงดันของการนวดได้มากกว่า 1 หัวเจ็ทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดของปั๊มพ์น้ำ ขนาดของหัวนวด และ จำนวนของหัวเจ็ทที่ติดตั้งภายในอ่างน้ำร้อนแต่ละรุ่น ทั้งนี้ในอ่างน้ำร้อนแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะมีจำนวนในการติดตั้งปั๊มพ์ที่ไม่เท่ากัน หากอ่างรุ่นใดมีจำนวนหัวนวดมาก มีการเลือกใช้หัวขนาดใหญ่ ผู้ผลิตจำเป็นต้องเลือกใช้ปั๊มพ์สำหรับระบบนวดเจ็ทที่มีขนาดใหญ่ตามไปด้วย ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของระบบนวดที่ทางผู้ผลิตในคิดค้นขึ้นมา
ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท เป็นปั๊มที่มีขนาดใหญ่ มีราคาจำหน่ายสูง และ มีอัตราในการส่งน้ำที่สูงกว่า ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ เนื่องจากปั๊มพ์นวดต้องอาศัยกำลังในการสร้างแรงดันในปริมาณมาก เพื่อเป็นตัวสร้างการนวดของระบบเจ็ท หากปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท มีขนาดและอัตราในการส่งน้ำที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ระบบนวดเจ็ทมีกำลังในการนวดที่เบา อ่อนแรง
หากมองในด้านของหน้าที่การทำงาน และ ในด้านของระบบภายในอ่างน้ำร้อน ปั๊มพ์ทั้ง 2 ประเภท คือ ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท และ ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ จะมีการทำงานแยกส่วนกัน การทำงานของปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท จะทำการสูบน้ำภายในอ่าง และ ส่งแรงดันออกมาทางหัวนวดเจ็ททันที โดยมีการติดตั้งท่อน้ำของระบบนวดเจ็ท แยกออกจากระบบท่อของระบบกรองน้ำ ระบบฮีทเตอร์ และระบบโอโซน ซึ่งมีปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำเป็นหัวใจในการทำงานอยู่แล้ว ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท ไม่ได้ส่งน้ำผ่านระบบกรองน้ำ ระบบฮีทเตอร์ และ ระบบโอโซน
การเปิดให้ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ททำงาน ลูกค้าสามารถกดเปิดปั๊มพ์ได้ที่ ปุ่มฟังก์ชั่น Jets โดยจะมีระยะเวลาในการทำงานต่อเนื่องที่ 15 นาที จากนั้นระบบแผงวงจรจะสั่งให้ปั๊มพ์หยุดทำงานอัตโนมัติ เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 15 นาทีแล้ว หากลูกค้าต้องการที่จะเปิดใช้งานระบบนวด ก็สามารถที่จะเปิดให้ปั๊มพ์นวดทำงานได้ทันที หลังจากที่ปั๊มพ์ถูกสั่งให้หยุดทำงาน โดยไม่ต้องหยุดพัก
สาเหตุที่ทางโรงงานผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอ่างน้ำร้อน outdoor เลือกติดตั้งค่าระยะเวลาการทำงานของระบบนวดที่ 15 นาที แล้วให้มีการหยุดทำงานอัตโนมัติ เนื่องจากทางผู้ผลิตได้มองถึงพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า ในการเปิดใช้งานระบบนวดเจ็ท ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วธรรมชาติของลูกค้าจะเปิดใช้งานระบบนวด 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ส่วนระยะเวลาที่ลูกค้าไม่ได้เปิดระบบนวดเจ็ท ลูกค้าก็จะนั่งชิวพักผ่อนไปกับน้ำอุ่นของอ่างน้ำร้อน
นอกจากการตั้งค่าการทำงานของปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ทให้ตรงต่อพฤติกรรมการใช้งานแล้ว ยังสามารถที่จะป้องกันลูกค้าลืมปิดปั๊มพ์นวดได้อีกด้วย หากเปรียบเทียบการที่โรงงานไม่ทำการตั้งค่าให้ปั๊มพ์หยุดทำงานอัตโนมัติ ทุก ๆ 15 นาที ลูกค้าอาจจะลืมเปิดปั๊มพ์นวดทิ้งไว้ตลอดทั้งวัน ตลอดทั้งคืนก็ได้ ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานและค่าไฟฟ้าที่ลูกค้าจะต้องจ่าย การตั้งเวลาตัดการทำงานอัตโนมัติของปั๊มพ์น้ำยังสามารถ ลดความร้อนและยืดอายุการใช้งานให้กับปั๊มพ์นวดได้อีกด้วย
ปั๊มพ์ระบบนวดลม เป็นตัวสร้างระบบนวดแรงดันอากาศ โดยเป็นปั๊มพ์ที่ทำหน้าที่ในการสูบลมจากภายนอกเข้าไปจ่ายยังหัวนวดลม ปั๊มพ์ลมจะส่งแรงดันอากาศเข้าไปใต้น้ำ แรงดันอากาศที่ออกมาจากหัวนวดจะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ สามารถสร้างบรรยากาศ เสียงน้ำ การเคลื่อนไหวขณะเปิดระบบนวดลม สร้างความรู้สึกให้ลูกค้าอยากลงไปแช่น้ำในอ่าง
สัมผัสที่ลูกค้าจะได้รับจากระบบนวดแรงดันอากาศ ลูกค้าจะรู้สึกถึงแรงการนวดที่นิ่มนวลกว่า ระบบนวดเจ็ท หรือ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ระบบนวดแรงดันอากาศ จะมีแรงดันการนวดที่เบากว่าระบบนวดเจ็ท เนื่องจากระบบนวดแรงดันอากาศใช้ลม เป็นตัวสร้างสัมผัสการนวดมายังผิวหนังของลูกค้าเป็นส่วนใหญ่ เป็นระบบนวดที่เหมาะสำหรับ การนั่งพักผ่อนแบบชิว ๆ ให้ลูกค้าได้แช่น้ำอุ่น พร้อมกับการนวดแบบเบาในอ่างน้ำร้อน
ตำแหน่งที่ทางโรงงานผู้ผลิต นิยมเลือกติดตั้งหัวนวดแรงดันอากาศนั้น จะอยู่บริเวณใต้ขาท่อนบนเป็นส่วนใหญ่ อ่างบางรุ่นอาจะมีการผสมผสานหัวนวดแรงดันอากาศติดตั้งลงไปในตามแนวน่องขาอีกด้วย ปั๊มพ์ระบบนวดลม เป็นหนึ่งในระบบนวดของอ่างน้ำร้อน ซึ่งจะมีการตั้งค่าให้ทำงานต่อเนื่อง 15 นาที แล้วตัดการทำงานอัตโนมัติ เช่นเดียวกับปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท โดยระบบท่อลม จะมีการออกแบบติดตั้งแยกจากระบบท่อน้ำของระบบนวดเจ็ท และ ระบบท่อน้ำของปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ
โดยส่วนแล้ว ระบบนวดแรงดันอากาศที่มาจาการทำงานของปั๊มพ์ระบบนวดลมนั้น จะถูกออกแบบติดตั้งภายในอ่างน้ำร้อน Outdoor ให้เป็นระบบเสริมในการนวด ซึ่งผู้ผลิตจะไม่นิยมใช้ระบบนวดลม เป็นระบบหลักในการสร้างการนวด เนื่องจาก ระบบนวดลมมีประสิทธิภาพในการนวดที่ต่ำกว่าระบบนวดเจ็ท เมื่อเปรียบเทียบในด้านของความแรงในการนวด ประสิทธิภาพของการนวดที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ และ อาการปวดตึงตามร่างกาย แต่สำหรับอ่างอาบน้ำ ระบบนวดลมยังคงเป็นระบบที่นิยมเลือกใช้กันแพร่หลาย เนื่องจากเหมาะสำหรับอ่างที่มีพื้นที่ภายในขนาดเล็ก ซึ่งสามารถสร้างผลลัพธ์ของการนวดได้

ปัญหาปั๊มพ์น้ำไม่ทำงาน ซึ่งหมายรวมถึงปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ และ ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท เมื่อลูกค้ากดสั่งให้ปั๊มพ์ทำงานที่ปุ่ม Jets แต่พบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในอ่างนิ่งสนิท ไม่มีเสียงการทำงานของปั๊มพ์น้ำ ไม่มีการเคลื่อนไหวของน้ำในอ่าง ไม่มีการทำงานของระบบนวดเจ็ท แต่หน้าจอแสดงผลว่าปั๊มพ์กำลังทำงานอยู่ โดยปัญหาของปั๊มพ์ไม่ทำงานในลักษณะดังกล่าว จะเกิดขึ้นได้จากกรณี เมื่อลูกค้าทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำในอ่าง ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากการเติมน้ำใหม่ลงไปในอ่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อลูกค้าเปิดระบบนวด ก็จะพบกับอาการที่กล่าวไปข้างต้น
ปัญหาที่เกิดขึ้น จะพบได้ในบางครั้งบางคราว ซึ่งเกิดขึ้นได้กับอ่างน้ำร้อน Outdoor ขนาดใหญ่ อ่างที่มีระบบนวดจำนวนมาก เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไข และ ป้องกันไม่่ให้เกิดขึ้นได้ แต่ปัญหานี้สามารถที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปั๊มพ์น้ำ โดยมีสาเหตุมาจาก อากาศค้างตัวในระบบท่อน้ำและปั๊มพน้ำ หรือ ที่เรียกว่า Air Lock
หลังจากที่ลูกค้าทำการทิ้งน้ำออกจากอ่างจนหมด อากาศจะเข้าไปแทรกตัวอยู่ในระบบท่อและปั๊มพ์ แทนน้ำที่ถูกถ่ายทิ้งออกไป แต่เมื่อทำการเติมน้ำใหม่ลงไปในอ่าง แต่น้ำไม่สามารถเข้าไปเติมเต็มในระบบท่อได้ทั้งหมด เนื่องจากระบบท่อของอ่างน้ำร้อน มีจำนวนมาก มีการกระจายตัวของท่อจากปั๊มพ์น้ำไปยังหัวนวดจำนวนหลายเส้น รวมไปถึงมีส่วนโค้งงอของท่อน้ำหลายตำแหน่ง
ในช่วงเริ่มต้นเปิดเครื่องอ่างน้ำร้อนหลังการเติมน้ำใหม่นั้น หากมีอากาศค้างตัวในระบบท่อและปั๊มพ์ หน้าจอควบคุมอ่างน้ำร้อนจะแสดงผลแจ้งเตือน เพื่อให้ลูกค้าทราบว่า กระบอกฮีทเตอร์แห้ง ไม่มีน้ำอยู่ในระบบท่อ หรือ ในบางครั้งจะมีการแจ้งเตือนถึงอัตราการไหลของน้ำที่น้อยกว่ามาตรฐาน ซึ่งหมายถึง เป็นอาการที่มีน้ำอยู่ในระบบท่อบางส่วน แต่น้ำไม่เต็มระบบทั้งหมด
เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการเติมน้ำใหม่ลงไปในอ่างน้ำร้อน ซึ่งวิธีการต่อไปนี้ลูกค้าสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้ช่าง และ เครื่องมือ
1. ปิดระบบไฟฟ้าทันที
หลังจากการเติมน้ำใหม่เสร็จเรียบร้อย เมื่อลูกค้าพบกับอาการปั๊มพ์ไม่ทำงาน ไม่ได้ยินเสียงการทำงานของปั๊มพ์ ลูกค้าควรปิดระบบไฟฟ้าที่จ่ายมายังอ่างน้ำร้อนทันที ไม่ควรฝืนเปิดให้มีไฟฟ้าหล่อเลี้ยงระบบปั๊มพ์ เพราะทุก ๆ วินาที ที่ยังมีการเปิดให้ระบบไฟฟ้าทำงาน ปั๊มพ์น้ำก็จะได้รับผลเสียจากอากาศที่ค้างตัวในระบบได้
2.ถอดไส้กรองอ่างน้ำร้อนออก
ปัญหาเรื่องอาการค้างตัวในระบบของปั๊มพ์น้ำ ที่จะขึ้นแจ้งเตือนบนหน้าจอแผงควบคุมนั้น เป็นปัญหาของปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ จะเริ่มทำการดูดน้ำจากระบบกรองเป็นจุดแรก การถอดไส้กรองออก เป็นการเปิดทางให้น้ำในอ่าง ทำให้น้ำสามารถเข้าไปเต็มเติมในระบบท่อและปั๊มพ์ได้
ระบบการหมุนเวียนน้ำของอ่างน้ำร้อนที่ทางคิวแอนด์จีจัดจำหน่าย จะเป็นระบบที่ทำการดูดน้ำบนผิวหน้า หรือ ระบบสกิมเมอร์ หากระบบท่อน้ำในบริเวณนี้มีอากาศค้างตัวอยู่ ซึ่งเป็นจุดแรกที่ปั๊มพ์หมุนเวียนเริ่มทำการสูบน้ำเข้าสู่ระบบ ลูกค้าสามารถไล่อากาศออกไปได้ ด้วยการใช้สายยางใส่ลงไปในท่อที่เป็นจุดยึดไส้กรองให้ลึกมากที่สุด จากนั้นให้เปิดน้ำจากยางเติมลงไป น้ำที่เติมลงไปใหม่จะไล่อาการที่ค้างตัวอยู๋ในระบบท่อออกไปได้
ขณะที่ลูกค้ากำลังเติมน้ำลงไปในช่องผนังสกิมเมอร์ แล้วพบว่ามีฟองอากาศลอยตัวออกมาจาก หัวจ่าย แสดงว่าลูกค้าได้ทำการไล่อากาศออกจากระบบท่อได้สำเร็จ เมื่อฟองอากาศออกมาจากหัวจ่ายจนหมดแล้ว ให้ทำการเปิดระบบไฟฟ้าของอ่างน้ำร้อน และ กดปุ่มสั่งให้ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำทำงาน จากนั้นให้สังเกตุการแจ้งเตือนบนหน้าจอ หากลูกค้าไม่พบข้อความการแจ้งเตือนใด ๆ และมีการเคลื่อนไหวของน้ำในอ่าง ได้ยินเสียงการทำงานของปั๊มพ์น้ำปกติ จึงถือว่าจบการแก้ปัญหาเรื่องอากาศค้างตัวในระบบท่อและปั๊มพ์น้ำ
อย่างไรก็ตามทางคิวแอนด์จีแนะนำลูกค้าปล่อยให้ระบบปั๊มพ์ทำงานโดยไม่มีไส้กรอง ประมาณ 5 - 10 นาที หลังจากที่ลูกค้าทำการแก้ไขปัญหาอากาศค้างตัวในระบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการใส่ไส้กรองน้ำกลับไปตามเดิม
ซึ่งการแก้ไขนี้จำเป็นต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์ มีความเข้าใจอุปกรณ์ของระบบท่อ จุดเชื่อมต่อ และ การประกอบอุปกรณ์ปั๊มพ์กลับเข้าไปในอ่างน้ำร้อนตามเดิม ซึ่งหากลูกค้าใช้ช่างจากภายนอก ที่ไม่มีความรู้ ไม่มีความเชี่ยวชาญในอ่างน้ำร้อน ก็จะอาจจะทำให้เกิดปัญหารั่วซึมตามมาได้ภายหลัง รวมไปถึงอาจทำให้อุปกรณ์ข้อต่อ เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจาก ความพยายามในการประกอบอุปกรณ์ที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอน
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นและวิธีการแก้ไขปัญหาที่กล่าวไป มาจากอากาศที่ค้างตัวอยู่ในระบบท่อของปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ แต่หากมีอากาศค้างตัวอยู่ในระบบท่อของปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท จนปั๊มพ์นวดไม่ยอมทำงาน ให้ลูกค้าใช้สายยางขนาดเล็กใส่เข้าไปที่หัวนวด และทำการเปิดน้ำใหม่ลงไปในอ่าง หากลูกค้าสามารถไล่อากาศที่ค้างตัวอยู่ไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องเปิดผนังไม้เทียม แล้วทำการแก้ไขโดยช่างของทางคิวแอนด์จี
ส่วนกรณีลูกค้าที่ต่อระบบท่อน้ำแบบถาวรเพื่อใช้สำหรับการเติมน้ำเข้าไปในอ่าง ในการเริ่มต้นเติมน้ำ ก็ให้ลูกค้านำสายยางมาใส่ไว้ในท่อที่ผนังสกิมเมอร์ไปพร้อมกับการเติมเปิดวาล์วน้ำปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอากาศค้างตัวในระบบท่อ
ในการเริ่มต้นเปิดให้ระบบปั๊มพ์น้ำทำงาน เราสามารถยืดอายุการใช้งานของปั๊มพ์น้ำได้ โดยการเปิดให้ปั๊มพ์น้ำทำงานในระยะเวลาสั้น แล้วทำการปิดปั๊มพ์ การเปิดให้ปั๊มพ์ทำงาน 1 ครั้ง ใช้เวลา 5 - 10 วินาที จากนั้นให้ลูกค้าทำซ้ำ หลายรอบ จนไม่เห็นฟองอากาศออกมาจากหัวนวด และ หัวจ่ายน้ำ วิธีการนี้จะช่วยลดการทำงานของปั๊มพ์น้ำในช่วงเริ่มต้น โดยปกติปั๊มพ์จะทำงานหนักในตอนเริ่มต้น จะต้องใช้กระแสไฟฟ้าที่สูง ในการเริ่มต้นทำงาน
น้ำในอ่างที่สกปรกผนวกกับการดูแลอ่างที่ไม่ทั่วถึง จะทำให้เกิดผลเสียต่อปั๊มพ์น้ำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ ด้านแรกของการเริ่มต้นสูบน้ำของปั๊มพ์ จะเป็นจุดที่ทำการติดตั้งไส้กรอง หากไส้กรองน้ำมีความสกปรก อุดตัน หมดอายุการใช้งาน ก็จะทำให้ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ ไม่สามารถที่จะสูบน้ำเข้าสู่ระบบได้ การปล่อยให้ต้นเหตุของปัญหาเกิดขึ้นต่อเนื่อง จนกระทั่งปั๊มพ์หยุดทำงาน เป็นการส่งผลเสียโดยตรงต่อปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ
การตรวจเช็คความสะอาดของไส้กรองเป็นประจำ การหมั่นล้างไส้กรอง และ การเปลี่ยนไส้กรองใหม่ เมื่อไส้กรองเก่าหมดอายุการใช้งาน เป็นวิธีป้องกันไม่ให้ปั๊มพ์น้ำเกิดความเสีย เป็นการรักษาและยืดอายุการใช้งานของปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ เนื่องจากปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำเป็นปั๊มพ์ที่มีชั่วโมงในการทำงานมากกว่า ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท ยกตัวอย่างเช่น สำหรับอ่างน้ำร้อน รุ่น เฟรย์ ทู ใน 1 ปี ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำจะต้องมีการทำงานไม่น้อยกว่า 2,000 ชั่วโมง ซึ่งอ่างน้ำร้อนจะมีการกรองน้ำทุกวัน เพื่อรักษาสภาพน้ำให้ใสสะอาด
การรักษาความสะอาดของไส้กรองจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ ปัญหาจากระบบไส้กรองที่อุดตัน แล้วส่งผลเสียต่อการทำงานของปั๊มพ์ เป็นปัญหายอดฮิต ที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะได้พบเจอ ซึ่งความผิดพลาดที่ทางคิวแอนด์จีพบ คือ ลูกค้าได้มอบหน้าที่การดูแลไส้กรอง ให้กับแม่บ้าน หรือ พ่อบ้าน ในการล้างทำความสะอาด และ การเปลี่ยนไส้กรองใหม่ แต่ด้วยความหลงลืม ไม่ทำการล้าง หรือ อาจจะทำการล้าง แต่ล้างไส้กรองไม่สะอาดเพียงพอ รวมไปถึงการไม่ให้ความสำคัญต่อระบบกรองของอ่างน้ำร้อน จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นได้
ในการล้างทำความสะอาดไส้กรองและการเปลี่ยนไส้กรองใหม่นั้น ไม่ได้มีสูตร หรือ ช่วงระยะเวลา ที่จะต้องล้างไส้กรองที่แน่นอนตายตัวสำหรับลูกค้าทุกคน ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่ติดตั้งอ่างน้ำร้อนในจังหวัดนครราชสีมา เขาใหญ่ กับ ลูกค้าในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จะมีวิธีการในการดูแลเรื่องไส้กรองที่แตกต่างกันไป เพราะมีปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานหลากหลายปัจจัย
1. ความถี่ในการลงไปแช่ตัวของลูกค้าในอ่างน้ำร้อน
ยิ่งมีการใช้งานอ่างน้ำร้อนมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ไส้กรองสกปรกได้เร็วขึ้นเท่านั้น เพราะการลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ลูกค้าจะนำสิ่งสกปรกลงไปในอ่างด้วย อาทิ เหงื่อ ไคล ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ หรือ หนังกำพร้า เป็นต้น ระหว่างอ่างน้ำร้อนที่ลูกค้ามีการลงไปแช่ตัวสัปดาห์ละ 3 วัน กับ อ่างน้ำร้อนที่มีลูกค้าที่ลงไปแช่ตัวทุกวัน ลูกค้าที่เปิดใช้งานอ่างทุกวัน จำเป็นจะต้องทำความสะอาดไส้กรองมากกว่าลูกค้าที่ใช้อ่างน้อยกว่า
รวมไปถึงปัจจัยในเรื่องระยะชั่วโมงที่ลูกค้าเปิดใช้งานอ่างด้วย เพราะขณะที่ลูกค้าเปิดใช้งานอ่าง ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ปลิวมาตามลม จะเป็นสิ่งที่สะสมตัวอยู่ที่ไส้กรองได้มากขึ้นตามไปด้วย หากมีการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เช่น มีการลงแช่ตัวในอ่างวันละ 5 ชั่วโมงต่อวัน ( สมาชิกในครอบครัรสลับกันมาลงอ่าง ) อ่างน้ำร้อนของลูกค้าบ้านนี้จะต้องทำการล้างไส้กรองบ่อยกว่า ลูกค้าที่มีการใช้งานวันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น เป็นต้น
ปริมาณความสกปรกของน้ำในอ่างที่เกิดขึ้น มีปัจจัยมาจากจำนวนคนที่ลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ยิ่งมีคนลงไปใช้ในอ่างจำนวนมากเท่าไหร่ น้ำในอ่างก็จะยิ่งเกิดความสกปรกได้มากขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอีกข้อหนึ่งที่ส่งผลต่อเรื่องความสกปรกของน้ำในอ่าง คือ ขนาดของอ่างน้ำ ซึ่งหมายถึง ปริมาณน้ำในอ่าง เป็นปัจจัยที่ซึ่งส่งผลต่อเรื่องการดูแลทำความสะอาดไส้กรอง
ยกตัวอย่างเช่น อ่างน้ำร้อน รุ่น A ขนาดรองรับลูกค้า 5 คน มีปริมาณน้ำ 1,800 ลิตร โดยมีลูกค้าลงไปแช่ตัวในอ่าง วันละ 2 คนต่อวัน เปรียบเทียบกับ อ่างน้ำร้อน รุ่น B ขนาด 2 คน ที่มีปริมาณน้ำ 800 ลิตร โดยมีลูกค้าลงไปใช้วันละ 2 คนต่อวันเช่นเดียวกัน
จะพบว่าไส้กรองสำหรับอ่างน้ำร้อน รุ่น A จะมีความสกปรกน้อยกว่า ไส้กรองของอ่างน้ำร้อน รุ่น B เนื่องจากปริมาณในน้ำอ่างมีมากกว่า ในส่วนของการดูแลทำความสะอาดล้างไส้กรอง และ การเปลี่ยนไส้กรองใหม่ อ่างน้ำร้อน รุ่น B จำเป็นต้องมีการล้างทำความสะอาดไส้กรอง และ จำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรองใหม่ที่บ่อยกว่า เพราะสิ่งปนเปื้อนภายในอ่างน้ำร้อนที่มากกว่า อ่างน้ำร้อน รุ่น A และ ยังส่งผลต่ออายุการใช้งานของไส้กรองให้มีอายุที่สั้นลงกว่าอีกด้วย
ความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยของจำนวนลูกค้าที่ลงไปใช้งานอ่างน้ำร้อน และ ปริมาณน้ำในอ่าง จากตัวอย่างข้างต้น ( ตามหัวข้อที่ 2 ) อ่างน้ำร้อน รุ่น A ลูกค้าสามารถที่จะใช้น้ำเดิมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า อ่างน้ำร้อน B เนื่องจาก มีปริมาณน้ำในอ่างที่มากกว่า จึงสามารถที่จะยืดระยะเวลาในการเปลี่ยนน้ำใหม่ออกไปได้
ปริมาณน้ำในอ่างที่มาก ส่งผลต่อปริมาณค่ามวลรวมของ TDS ( Total Dissovled Solids ) หรือ ปริมาณมวลรวมของแข็งที่อยู่ในน้ำ อาทิ แร่ธาตุหนัก เหล็ก โลชั่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมไปถึงคลอรีนที่ใช้เป็นตัวฆ่าเชื้อโรคที่ตกค้างอยู่ และ สิ่งปนเปื้อนในอ่างน้ำร้อน โดยสามารถกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในน้ำ ซึ่งมาจากการใช้แช่ตัวของลูกค้าในอ่าง จะทำให้ค่ามวลรวมของ TDS เพิ่มสูงขึ้นได้
ตามหลักการแล้ว หากน้ำในอ่างน้ำร้อนมีค่า TDS สูง จะทำให้ไม่สามารถบำบัดน้ำ เพื่อใช้น้ำเดิมต่อไปได้ แม้ว่าระบบจะทำการฆ่าเชื้อโรคด้วยโอโซน การฆ่าเชื้อโรคด้วยการใช้คลอรีน และ การกรองน้ำก็ตาม ซึ่งจะทำให้ประสิทธิของการฆ่าเชื้อโรค การบำบัดน้ำต่ำลง จนท้ายที่สุดแล้ว ไม่สามารถที่จะทำให้น้ำในอ่างสะอาดเพื่อนำมาใช้หมุนเวียนในอ่างต่อไปได้
อ่างน้ำร้อนที่มีค่า TDS สูงกว่ามาตรฐาน จะทำให้เกิดปัญหา น้ำขุ่น น้ำเขียว มีการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำเปลี่ยนสีไปตามปริมาณแร่ธาตุหนักที่อยู่ในน้ำ ทำให้เกิดการกัดกร่อนต่อระบบภายในอ่างน้ำร้อนทั้งหมด รวมไปถึงทำให้เกิดอาการคัน อาการแพ้ต่อร่างกายของลูกค้าได้อีกด้วย
ปัจจัยในด้านการเปลี่ยนถ่ายน้ำ จึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อเรื่องความสะอาดของน้ำในอ่าง และความสะอาดของไส้กรอง ซึ่งนอกจากจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ ยังส่งผลรวมไปถึงปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ทด้วย เนื่องจากน้ำในอ่างที่จะสกปรก จะมีสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ เข้าไปเกาะตัวตามอุปกรณ์ภายในของปั๊มพ์นวด เช่น ใบพัด แกนไบพัด สปริงลูกยางกันน้ำซึมเข้ามอเตอร์ เป็นต้น สิ่งสกปรกของน้ำในอ่างที่เกาะตัวตามระบบอุปกรณ์ภายในของปั๊มพ์น้ำ จะส่งผลให้เกิดการชะลอประสิทธิภาพการทำงานให้ต่ำลง และส่งผลเสียในระยะยาวต่อปั๊มพ์น้ำได้ในอนาคต
วิธีการแก้ไขของการลดปริมาณค่า TDS ในอ่างน้ำร้อน คือ การเปลี่ยนถ่ายน้ำใหม่ การเปลี่ยนน้ำเป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้ค่า TDS ในอ่างน้ำร้อนลดน้อยลงไปได้ ส่วนเรื่องระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำของอ่างแต่ละรุ่น จะมีการคำแนะนำที่ไม่เท่ากัน ซึ่งจะแปรผันไปตามพฤติกรรม หรือ ความถี่ในการลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน รวมไปถึงปริมาณน้ำในอ่าง และ จำนวนคนที่ลงไปใช้งานอ่างน้ำร้อน
ทางคิวแอนด์จีจะขอยกตัวอย่างสำหรับอ่างน้ำร้อนขนาดกลาง ที่เป็นอ่างรองรับการใช้งานได้ 4 - 5 คน โดยสมมุติว่ามีลูกค้าลงไปใช้อ่าง 2 คนต่อวัน ทางคิวแอนด์จีจะแนะนำให้เปลี่ยนน้ำ ทุก ๆ 3 เดือน เป็นอย่างน้อย เพื่อการรักษาประสิทธิภาพการทำงานของปั๊มพ์น้ำ และ การยืดอายุการใช้งาน แต่สำหรับลูกค้าที่มีเวลาในการดูแลอ่างน้ำร้อน สามารถที่จะเปลี่ยนน้ำทุก 1 เดือน ก็ได้
การอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายก่อนลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ส่งผลต่อระบบปั๊มพ์น้ำอย่างไร ให้ลูกค้านึกภาพว่า ลูกค้าออกไปทำกิจกรรมออกกำลังกายมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน การเต้น การออกกำลังด้วยศาสตร์ของโยคะ เป็นต้น เมื่อลูกค้าทำกิจวัตรเสร็จเรียบร้อย กลับมาถึงบ้าน ก็ลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำร้อนทันที สิ่งที่ลูกค้าได้นำลงไปในอ่างน้ำร้อน คือ เหงื่อ ขี้ไคล เซลล์ผิวหนัง สิ่งสกปรกที่ออกมาจากร่างกาย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เคมี ที่ใช้ในการดูแลผิวพรรณ เช่น ครีมกันแดด ยาบำรุงเส้นผม เซรั่ม เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับดูแลร่างกายเหล่านี้ จะลงไปรวมตัวในน้ำในปริมาณที่สูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับลูกค้าที่ทำการอาบน้ำก่อนลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน
สิ่งสกปรกที่มาจากร่างกาย และ ผลิตภัณฑ์การดูแลผิว จะทำให้เกิดการอุดตันที่ไส้กรองได้ง่ายขึ้น ทำให้น้ำในอ่างสกปรกได้เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าต้องการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยกว่าลูกค้าท่านอื่น ที่อาบน้ำทุกครั้งก่อนการแช่น้ำตัวในอ่างน้ำร้อน สิ่งปนเปื้อนเหล่านี้เกิดจากการไม่อาบน้ำก่อนลงอ่าง จะส่งผลต่อเนื่องไปยังปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำและปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท เนื่องระบบการกรองน้ำ การฆ่าเชื้อโรคด้วยโอโซนและคลอรีน ไม่สามารถที่จะดักจับ และ ทำลายสิ่งปนเปื้อน อย่างเช่น โลชั่น น้ำมัน ที่สะสมอยู่จำนวนมากให้หมดไปจากอ่างได้
สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ไม่เคยเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อน หากได้ลงไปแช่ตัวครั้งแรก แล้วพบเห็นกลุ่มฟองลูกใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะที่หนาฟู ผิดปกติ มีฟองคล้ายฟองสบู่ขึ้นมา เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่ยังลงไม่ได้อ่าง ให้ลูกค้าทราบไว้นะครับว่า นั้นเป็นฟองที่มาจากผงซักฟอก หรือ ฟองแฟ้บ ที่ติดมากับเสื้อผ้าที่ลูกค้าลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ไม่ได้เป็นฟองที่มาจากการทำงานของระบบภายในอ่างน้ำร้อน ไม่ได้เป็นฟองที่มาจากการเติมผลิตภัณฑ์สบู่ ครีมอาบน้ำ และ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายต่าง ๆ
หลักในการใช้งานอ่างน้ำร้อน คือ การป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งปนเปื้อนลงไปในอ่างให้ได้มากที่สุด นอกจากสิ่งสกปรกที่มาจากร่างกาย ซึ่งลูกค้าสามารถขจัดออกไปได้ด้วยการอาบน้ำแล้ว การเลือกชุดสำหรับการลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ลูกค้าสามารถป้องกันสิ่งสกปรกภายในอ่างน้ำร้อน ไปพร้อมกับการรักษาอายุการใช้งานของปั๊มพ์น้ำได้
สำหรับชุดที่ทางคิวแอนด์จีแนะนำให้ใช้ในการลงอ่าง คือ ชุดว่ายน้ำ เนื่องจากโดยปกติในการทำความสะอาดชุดว่ายน้ำนั้น จะไม่ได้นำไปซักในตู้ซักผ้า ไม่ได้ซักด้วยการใช้ผงซักฟอก จะนิยมซักด้วยน้ำเปล่า การแช่น้ำอุ่น การแช่ในน้ำส้มสายชู และ เบคกิ้งโซดา การแช่ชุดว่ายน้ำในน้ำสบู่เหลว วิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถที่จะล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกและตัวเคมีทำความสะอาดให้หมดไปได้ด้วยน้ำเปล่า
แต่หากลูกค้านำชุดว่ายน้ำ รวมไปถึงเสื้อผ้าธรรมดาทั่วไป ซักด้วยผงซักฟอก ลูกค้าจะไม่สามารถล้างทำความสะอาดผงซักฟอกที่ฝังตัวลึกอยู่ในเสื้อผ้าให้หมดไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซักทำความสะอาดด้วยเครื่องซักผ้า เมื่อใช้เสื้อผ้าและชุดว่ายน้ำที่ซักด้วยผงซักฟอกเหล่านี้ ไปลงแช่น้ำอุ่นในอ่าง ผงซักฟอกจะกระจายตัวออกมาจากเสื้อผ้าเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำอุ่นในอ่าง
ผลเสียจากฟองของผงซักฟอก นอกจากจะทำให้เกิดอาการแพ้ต่อลูกค้าแล้ว ยังทำให้เกิดการอุตตันที่ไส้กรอง และ ทำให้เกิดสิ่งสกปรกสะสมต่อระบบปั๊มพ์น้ำได้ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดฟองแฟ้บ หรือ ฟองผงซักฟอกในอ่างน้ำร้อน จึงเป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่ออายุการใช้งานของปั๊มพ์น้ำด้วย
เนื่องจากภายในอ่างน้ำร้อนมีการติดตั้งระบบกรอง ระบบฆ่าเชื้อโรค ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าหลายท่านมีความเข้าใจผิดว่า ใช้น้ำแบบไหนเติมลงไปในอ่างก็ได้ โดยเฉพาะลูกค้าที่มีบ้านอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่แล้วในต่างจังหวัด จะสูบน้ำขึ้นมาใช้จากบาดาล และ น้ำที่มาจากบ่อเก็บพักของจังหวัด ซึ่งสภาพน้ำดิบเหล่านี้ จะไม่สามารถนำมาใช้เป็นน้ำอุปโภคโดยตรงได้ทันที จำเป็นที่จะต้องผ่านกระบวนการกรองน้ำเสียก่อน เนื่องจากน้ำบาดาล และ น้ำที่มาจากบ่อเก็บพัก จะมีตะกอนหนัก สิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ในน้ำจำนวนมาก
การใช้น้ำบาดาล น้ำในคลอง น้ำในบ่อเก็บพัก มาเติมลงไปในอ่างน้ำร้อนโดยไม่ผ่านการกรองน้ำจากระบบภายนอก จะทำให้เกิดการอุดตัน ทำให้อุปกรณ์ภายในอ่างน้ำร้อนเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดผลเสียต่อระบบปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำ และ ปั๊มพ์น้ำสำหรับระบบนวดเจ็ท ได้โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่จังหวัดที่มีตะกอนหนักจำพวก หินปูน เหล็ก แมงกานีส เพราะตะกอนเหล่านี้จะทำให้อายุการใช้งานของไส้กรองสั้นลงอย่างรวดเร็ว บางพื้นที่แค่ลูกค้าเปิดใช้งานอ่างน้ำร้อนเพียง 1 - 2 วัน ลูกค้าก็ต้องทำการล้างไส้กรองของอ่างน้ำร้อนแล้ว และยังส่งผลให้ลูกค้าต้องเปลี่ยนไส้กรองใหม่่เร็วขึ้นอีกด้วย
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบกรองที่ใช้สำหรับน้ำใช้ หรือ น้ำอุปโภค แม้ว่าลูกค้าจะมีการติดตั้งถังกรอง เพื่อการดักจับสิ่งสกปรกของน้ำบาดาลที่สูบขึ้นมาใช้ของบ้านอยู่แล้วก็ตาม แต่หากมีการติดตั้งระบบกรองที่ไม่สามารถกรองน้ำให้ได้ระดับมาตรฐาน เช่น มีการเลือกใช้ขนาดถังกรองเล็กเกินกว่าสภาพน้ำดิบที่มีสิ่งปนเปื้อนสูง ลูกค้าไม่เคยล้างสารกรองภายในถัง และ ในกรณีที่มีการเลือกใช้สารกรองไม่ตรงต่อการดักจับตะกอนหนักที่มากับสภาพน้ำดิบ เป็นต้น ความเข้าใจผิด ความไม่เข้าใจการทำงานของระบบกรอง จะทำให้ลูกค้าได้น้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน ยังคงมีสิ่งปนเปื้อนตกค้างมาก เมื่อเปิดใช้งานน้ำลักษณะนี้เติมลงไปในอ่าง ก็จะทำให้เกิดผลเสียต่ออ่างน้ำร้อน และ ปั๊มพ์น้ำได้
ปัญหาที่เกิดจากสภาพน้ำที่เติมไปในอ่าง จะไม่ส่งผลในจังหวัดเมืองหลวงอย่างกรุงเทพ และ จังหวัดอื่น ๆ ที่มีมาตรฐานน้ำใช้ที่ดี มีการจัดการด้านน้ำมาจากภาคส่วนจังหวัดที่ลูกค้าอยู่อาศัย ดังนั้น ในการเลือกน้ำที่เติมลงไปในอ่าง จึงต้องเป็นน้ำใช้ที่สะอาด น้ำใช้ได้มาตรฐานของน้ำประปาเพื่อการอุปโภค เพราะเป็นรักษาอายุการใช้งานของระบบภายในอ่างน้ำร้อน อายุไส้กรอง ลดระยะเวลาในการดูแลอ่างน้ำร้อน และ เป็นการรักษาประสิทธิภาพการทำงานของปั๊มพ์น้ำ ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานได้อีกด้วย
อ่างน้ำร้อนที่ติดตั้งไว้สำหรับภายนอกบ้าน หรือ ใช้สำหรับงานกลางแจ้ง Outdoor จำเป็นต้องปิดฝาอ่างน้ำร้อนไว้ เมื่อลูกค้าไม่ได้ใช้งาน เนื่องจาก ขณะที่เปิดฝาอ่างออกไว้ ฝุ่นละออง น้ำฝน ใบไม้ เศษขยะต่าง ๆ รวมไปถึงแสงแดด จะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดความสกปรกในอ่างน้ำร้อนได้ เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพความกลาง หรือ ค่า pH ในอ่างน้ำร้อน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาน้ำเสีย และ การอุดตันที่ไส้กรอง การลดประสิทธิภาพการทำงานของปั๊มพ์น้ำได้
อ่างน้ำร้อนที่ได้รับการดูแลดี มีการปิดฝาอ่างทุกครั้งหลังลงแช่ตัวเสร็จ จะทำให้สามารถป้องกันสิ่งสกปรกภายในอ่างน้ำร้อน ไม่ให้เกิดผลเสียต่อระบบ และ สามารถยืดอายุการใช้งานของปั๊มพ์น้ำได้
เมื่อลูกค้าทำความสะอาดร่างกายภายในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะมาลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน เพื่อรับประโยชน์จากระบบนวด คุณสมบัติแรงพยุงของน้ำ และ ประโยชน์จากน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิคงที่
อ่างน้ำร้อน Outdoor ไม่ได้ผลิตออกมาให้ลูกค้า ลงไปอาบน้ำในอ่าง ไม่ได้ผลิตออกมาเพื่อใช้สำหรับการใส่สบู่ ครีมอาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย การลงไปอาบน้ำและใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายในอ่างน้ำร้อน จะทำให้ไส้กรองน้ำอุดตันได้ง่าย และ ทำให้ระบบปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำและปั๊มพ์นวด มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ต่ำลง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบปั๊มพ์น้ำได้อนาคตอีกด้วย
ดังนั้นลูกค้าที่ซื้ออ่างน้ำร้อนไป จึงควรนำอ่างน้ำร้อน Outdoor ไปใช้งานให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการผลิต เพราะจะเป็นการรักษาอายุการใช้งานอ่างน้ำร้อน และ ทำให้คุ้มค่าต่องบประมาณของลูกค้าอีกด้วย
พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าและสมาชิกในครอบครัว จะส่งผลต่อปั๊มพ์น้ำระบบนวดเจ็ท และ ปั๊มพ์หมุนเวียนน้ำได้ เพราะหากลูกค้ามีเด็ก ๆ ในบ้าน อยู่ในช่วงวัยกำลังซน เด็กจะชอบนำของเล่น ขยะ อาหาร หรือ สิ่งต่าง ๆ ที่ลูกค้าคาดไม่ถึง ใส่ลงในอ่างน้ำร้อน สิ่งเหล่านี้สามารถเข้าไปติดในระบบท่อ เข้าไปขวางการทำงานของปั๊มพ์น้ำได้โดยตรง ซึ่งหากมีการสะสมตัวของสิ่งของจำนวนมาก ก็อาจจะทำให้ปั๊มพ์น้ำเกิดความเสียหายได้ สำหรับวิธีการป้องกันเด็กในบ้าน นำสิ่งของไปใส่ในอ่างน้ำร้อน ทางคิวแอนด์จีจะแนะนำให้เจาะยึดตัวล็อคฝาปิดอ่าง แล้วทำการล็อคด้วยกุญแจที่ฝาปิด เพื่อป้องกันการเปิดใช้งานอ่างน้ำร้อนในขณะที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ดูแล
ส่วนกรณีลูกค้าที่มีญาติหลายท่าน มีการจัดสังสรรค์ปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนที่บ้านบ่อยครั้ง ทางผมจะแนะนำให้ลูกค้าทำการเปลี่ยนน้ำใหม่หลังงานเลี้ยงปาร์ตี้จบลง เพราะสภาพน้ำที่ผ่านปาร์ตี้กินดื่มนั้น จะมีอาหาร เศษขยะ เศษถุงขนม ร่วมไปถึงเศษภาชนะ แก้ว เศษพลาสติก เครื่องดื่ม อยู่ในอ่างน้ำร้อนได้ การเปลี่ยนถ่ายน้ำหลังเลิกงานเลี้ยง จะเป็นวิธีการป้องกัน และ รักษาประสิทธิภาพการทำงานของปั๊มพ์น้ำ ทำให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
เมื่อลูกค้าได้ซื้ออ่างน้ำร้อน Outdoor แล้วได้ผ่านการใช้งานไประยะเวลาหนึ่ง หากลูกค้าทำการดูแลรักษาปั๊มพ์น้ำตามคำแนะนำข้างต้นที่กล่าวไปทั้งหมด แต่พบอาการผิดปกติของปั๊มพ์น้ำ นอกเหนือจากสาเหตุต่าง ๆ ที่มาจาการใช้งาน การดูแลเรื่องความสะอาดของน้ำในอ่าง เช่น ระบบอ่างไม่ยอมทำน้ำอุ่น น้ำไม่ร้อน น้ำร้อนเกินกว่าที่ตั้งค่าไว้ ได้ยินเสียงการทำงานของปั๊มพ์ผิดแปลกไปจากเดิม ได้ยินเสียงปะหลาดตอนปั๊มพ์น้ำเริ่มทำงาน มีน้ำรั่วซึมออกมาข้างอ่าง เป็นต้น ให้ทางลูกค้าติดต่อกลับมาที่คิวแอนด์จี เพื่อให้ทีมงานของเราเข้าไปตรวจสอบแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า
สาเหตุที่ลูกค้าจำเป็นต้องให้ทางคิวแอนด์จี เข้าไปจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องปั๊มพ์น้ำให้แก่ลูกค้า เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้เป็น ปัญหาที่ลูกค้าไม่สามารถที่แก้ไขได้ด้วยตนเอง รวมไปถึง เป็นปัญหาที่ช่างประปา และ ช่างไฟฟ้า ทั่วไป ไม่สามารถที่จะแก้ไขให้แก่ลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์และหายขาดได้ เนื่องจาก การดูแลซ่อมบำรุงให้บริการด้านอ่างน้ำร้อน จำเป็นต้องใช้บุคคลากรที่มีประสบการณ์ มีความเข้าใจถึงระบบการทำงานภายใน และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ของอ่างน้ำร้อน
ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิวแอนด์จี
Q&G Limited Partnership
ติดต่อโทร. 087-816-6383
Ask.QandG@gmail.com
เว็บไซต์ : QandGTub.com

การลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถสร้างคุณประโยชน์ต่อด้านร่างกายได้หลากหลาย โดยการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟู การบำบัด การบรรเทาอาการเจ็บปวด และ ปัญหาด้านสุขภาพได้ตามศาสตร์ของธาราบำบัด การแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถส่งผลให้เกิดประโยชน์ด้านสุขภาพ ได้จาก 3 ปัจจัยหลัก ดังต่อไปนี้
- ระบบนวดเจ็ท ( Hydrotherapy Jets Massage )
- อุณหภูมิของน้ำอุ่น ( Warm Water ) อุณหภูมิความร้อน 35 - 40 องศาเซลเซียส
- คุณประโยชน์จากแรงพยุงตัวของน้ำ ( Buoyancy )


ในบทความนี้ทางคิวแอนด์จี จะมานำเสนอแง่มุมคุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อน เพื่อใช้สำหรับการแช่น้ำอุ่นบริเวณพื้นที่ภายนอกบ้าน ที่จะส่งผลให้ข้อดีต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ( Privacy ) เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิต การเพิ่มระดับคุณภาพชีวิต การให้คุณค่าของความสุขอันพิเศษเฉพาะตน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้าน อันเป็นสถานที่ให้ความรู้สึกสบายใจได้ทุก ๆ วัน
เพื่อความผ่อนคลาย แบบส่วนตัว
คุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อนภายนอกบ้าน คือ การสร้างพื้นที่ในการพักผ่อนแบบส่วนตัว โดยลูกค้าสามารถผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำที่บ้าน โดยไม่ต้องพบปะคลุกคลีกับบุคคลอื่นที่เราไม่ได้รู้จัก การผ่อนคลายในสถานที่ส่วนตัว เป็น ความสุข ด้วยการหลีกออกจากสังคมภายนอก ต่างไปจากการใช้บริการในสถานดูแลสุขภาพ เช่น ส่วนกลางสปาของโรงแรม รีสอร์ท บ่อน้ำอุ่นแบบรวม ศูนย์ธาราบำบัด บ่อน้ำแร่ออนเซ็น เป็นต้น