การเลือกตั้งอุณหภูมิในอ่างน้ำร้อน Outdoor ตามฤดูกาล เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า

  • โดย Q&G
  • 18 ก.ย., 2565

ไอเดียการตั้งค่าอุณหภูมิอ่างน้ำร้อน  Outdoor  เพื่อการประหยัดค่าไฟฟ้า

ในบทความนี้ทางคิวแอนด์จี จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าอุณหภูมิน้ำอุ่นของอ่างน้ำร้อน ให้เหมาะกับฤดูกาล พฤติกรรมการลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน เพื่อวัตถุประสงค์ในการประหยัดค่าไฟฟ้า แม้ว่าสภาพแวดล้อมอากาศในประเทศไทย จะไม่ได้มีฤดูหิมะตก ไม่ได้มีอุณหภูมิความเย็นติดลบ ไม่ได้มีสภาพอากาศที่หนาวจัดเหมือนกับชาวต่างชาติที่มีบ้านอยู่ในทวีปอเมริกา ยุโรป แต่เรื่องค่าไฟฟ้าก็เป็น คำถามที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการทราบก่อนการตัดสินใจซื้ออ่างน้ำร้อน Outdoor 

ปัจจัยที่ส่งผลด้านการประหยัดค่าไฟฟ้าของอ่างน้ำร้อน Outdoor มี 3 ปัจจัย คือ

  1. การเลือกอุณหภูมิน้ำอุ่นในอ่าง
  2. การเลือกโหมดการทำงานของระบบฮีทเตอร์ ( คลิกอ่านรายละเอียดได้เลยครับ )
  3. การใช้งานและการดูแลอ่าง
การเลือกอุณหภูมิน้ำในอ่างน้ำร้อน

  โดยปกติแล้ว ทางคิวแอนด์จี จะแนะนำวิธีการตั้งค่าระบบอ่างน้ำร้อน เพื่อทำการรักษาอุณหภูมิน้ำอุ่นให้คงที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจุดประสงค์ด้านความสะดวกสบายเป็นหลัก โดยลูกค้าไม่ต้องมาคอยตรวจเช็คอุณหภูมิน้ำในอ่าง ไม่ต้องมาคอยปรับตั้งค่าอุณหภูมิ เพียงแค่เลือกอุณหภูมิที่ลูกค้าชื่นชอบไว้ น้ำในอ่างจะมีการเก็บความร้อน และ ทำให้มีอุณหภูมิคงที่ตลอดเวลา เพื่อให้ลูกค้าสามารถลงใช้งานอ่างน้ำร้อน เวลาใดก็ได้ที่ลูกค้าต้องการ

สำหรับมุมมองในเรื่องค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า เป็นปัจจัยที่ลูกค้าคำนึงถึง เนื่องจากค่าไฟฟ้า อาจเป็นค่าใช้จ่ายแอบแฝงสำหรับสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่ผู้จัดจำหน่ายไม่ได้แจ้งแก่ลูกค้าให้ทราบก่อนการตัดสินใจซื้อ ซึ่งทำให้ลูกค้าต้องแบกรับภาระ นอกจากงบประมาณค่าสินค้าทีลูกค้าต้องจ่ายซื้อเพิ่มเติมในอนาคต

ลูกค้าสามารถเลือกตั้งค่าการทำงานของระบบทำน้ำร้อน เพื่อมุ่งเน้นประโยชน์ในด้านการประหยัดค่าไฟฟ้า โดยเราสามารถที่จะตั้งค่าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อนของแต่ละท่านได้ ข้อมูลต่อไปนี้เป็นวิธีการตั้งค่าที่เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้า ที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ลงอ่าง แต่อาจจะมีเวลา 1 - 2 วัน ในช่วงวันหยุด ที่ลูกค้าจะได้ลงอ่างน้ำร้อน ซึ่งวิธีการตั้งค่าดังต่อไปนี้ ไม่เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานอ่างน้ำร้อน ลงแช่ตัวเป็นประจำทุกวัน หรือ มีการลงอ่าง 5 วัน ต่อสัปดาห์ ขึ้นไป

การตั้งอุณหภูมิน้ำอุ่นในอ่างช่วงฤดูร้อน

  การตั้งค่าอุณหภูมิในอ่างช่วงฤดูร้อน ทางคิวแอนด์จีเราจะแนะนำให้ลูกค้าตั้งค่าระบบน้ำอุ่นตามสภาพอากาศช่วงหน้าร้อน โดยความร้อนจากอากาศภายนอกจะทำให้อ่างมีอุณหภูมิน้ำอยู่ที่ประมาณ 33 - 35 องศา การตั้งค่าอุณหภูมิน้ำอุ่นไว้ตามสภาพอากาศความร้อนภายนอก จะช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ ในวันหยุดพักผ่อนเมื่อลูกค้าต้องการจะลงแช่ตัว จึงค่อยปรับอุณหภูมิขึ้นไปที่ 38 องศา หรือ อุณหภูมิความร้อนที่ต้องการ ซึ่งการตั้งอุณหภูมิในลักษณะนี้ จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า จากการรักษาอุณหภูมิของระบบทำความร้อนเมื่อลูกค้าไม่ได้ลงไปใช้งานในอ่าง เป็นลดการชั่วโมงการทำงานของระบบอีทเตอร์

ในขั้นตอนการใช้งานนั้น ลูกค้าจะต้องมาตั้งอุณหภูมิความร้อน ก่อนช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการลงอ่างล่วงหน้า ซึ่งจะใช้เวลาในการรอให้ระบบทำงานประมาณ 1 ชั่วโมง ครึ่ง จากอุณหภูมิน้ำที่ 35 องศา เพื่อให้ได้ความร้อนในอ่างที่ 38 องศา ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้าต้องการลงเวลา 6 โมงเย็น ลูกค้าต้องมาตั้งน้ำอุ่นเวลาบ่าย 4 โมง ครึ่ง เพื่อให้น้ำอ่างมีอุณหภูมิน้ำอุ่นที่ 38 องศา เมื่อถึงเวลา 6 โมงเย็น

สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบอุณหภูมิการแช่น้ำที่ไม่เกิน 35 องศา ในช่วงหน้าร้อน การตั้งค่าด้วยวิธีข้างต้นจะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงอากาศที่มีความร้อนภายนอกส่งผลต่ออุณหภูมิน้ำในอ่าง ทำให้มีสภาพน้ำอุ่นที่มาจากความร้อนของแสงแดด จึงเป็นการลดชั่วโมงการทำงานของฮีทเตอร์อ่างน้ำร้อนได้ภายในตัว

แต่สำหรับลูกค้าท่านใด เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน ลูกค้าไม่ต้องการลงแชตัวในน้ำอุ่น ต้องการที่จะแช่น้ำอุณหภูมิปกติ เพื่อการแช่น้ำหลีกหนีจากอากาศที่ร้อนจัด เป็นการแช่น้ำในอ่าง ผ่อนคลายไปกับระบบนวดเจ็ท โดยไม่ต้องเปิดเครื่องทำน้ำอุ่น ทางคิวแอนด์จีจะแนะนำให้ลูกค้าทำการตั้งค่าเครื่องไว้ที่ 28 องศา ซึ่งเป็นการบอกให้เครื่องทราบว่า อุณหภูมิน้ำที่ลูกค้าต้องการ คือ ไม่เกิน 28 องศา ทั้งนี้ระบบฮีทเตอร์จะไม่ทำงาน หากน้ำในอ่างมีอุณหภูมิสูงเกิน 28 องศา แต่หากเมื่อใดที่อุณหภูมิน้ำลดลงต่ำกว่า 28 องศา เช่น ในช่วงยามค่ำคืน กลางดึก อุณหภูมิในอ่างอาจจะเย็นลงเหลือ 27 องศา เมื่อระบบพบว่ามีอุณหภูมิลดลงเหลือ 27 องศา ฮีทเตอร์จึงจะสร้างอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่ 28 องศา ด้วยวิธีการตั้งค่าอุณหภูมิในให้อยู่ในอุณหภูมิปกติที่ 28 องศา ของฤดูร้อน จะเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้า เป็นการปิดเครื่องทำอุ่นโดยไม่ได้ใช้งานอ่างน้ำร้อน ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการแช่น้ำอุ่น ในช่วงฤดูร้อน

การตั้งอุณหภูมิน้ำอุ่นในอ่างช่วงฤดูฝน

ฤดูฝนเป็นฤดูที่ลูกค้าจำเป็นต้องปิดฝาอ่างน้ำร้อนเป็นประจำ เมื่อไม่ได้ลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน เพื่อป้องกันน้ำฝนตกลงไปในอ่าง แล้วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำ เช่น อาจทำให้น้ำกลายเป็นสีเขียว มีการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำ อันเนื่องมาจากระดับการฆ่าเชื้อโรคลดต่ำลง เพราะปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในอ่างจากน้ำฝนที่ตกลงมา

การใช้งานอ่างน้ำร้อนนั้น  หากลูกค้าไม่ปิดฝาอ่างในช่วงหน้าฝนนอกจะส่งผลให้ลูกค้าต้องเสียเวลามาดูแลน้ำในอ่าง เสียเวลาในการทำความสะอาด ยังทำให้สูญเสียพลังงานไฟฟ้าในการเปิดระบบฮีทเตอร์เพื่อสร้างอุณหภูมิน้ำอุ่นในอ่างอีกด้วย น้ำฝนที่ตกลงมาทำให้อุณหภูมิน้ำในอ่างลดลง เมื่อระบบพบว่ามีอุณหภูมิตกลงจากอุณหภูมิที่ลูกค้าเลือกไว้ ฮีทเตอร์จึงพยายามที่จะสร้างความร้อน เพื่อรักษาระดับของอุณหภูมิให้คงที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนอุณหภูมิที่แนะนำให้ตั้งค่าสำหรับช่วงหน้าฝนนั้น เป็นอุณหภูมิอยู่ที่ระหว่าง 28 องศา ถึง 32 องศา ซึ่งเป็นการตั้งค่าตามอุณหภูมิของสภาพอากาศช่วงหน้าฝน เมื่อลูกค้าต้องการลงแช่ตัวในอ่าง กรณีน้ำในอ่างมีอุณหภูมิ 30 องศา จะต้องมาตั้งเวลาล่วงหน้า 4 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้า สามารถลงไปแช่น้ำที่อุณหภูมิ 38 องศาได้ เช่น ลูกค้าต้องการลงแช่น้ำเวลา 1 ทุ่ม ลูกค้าจะต้องมาตั้งอุณหภูมิตอนเวลา บ่าย 2 โมง เพื่อให้อ่างน้ำร้อนมีการสร้างอุณหภูมิน้ำอุ่นจาก 30 องศา ให้มีความร้อนขึ้นไปที่ 38 องศา เมื่อถึงเวลา 1 ทุ่มตรง เป็นต้น

แต่สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบความร้อนไม่เกิน 35 องศา ในช่วงหน้าฝน ลูกค้าจะต้องใช้เวลาในการตั้งอุณหภูมิล่วงหน้าโดยประมาณ 2 ชั่วโมง จากตัวอย่างอุณหภูมิน้ำในช่วงหน้าฝนที่มีอุณหภูมิ 30 องศา เพื่อสร้างอุณหภูมิความร้อนให้ได้ที่ 35 องศา

การตั้งอุณหภูมิน้ำอุ่นในอ่างช่วงฤดูหนาว

  ช่วงอากาศหนาวเย็นเป็นฤดูที่เหมาะกับการแช่น้ำอุ่นในอ่างน้ำร้อนมากที่สุด เพราะด้วยสายลมที่เย็นสบาย จากบรรยากาศภายนอกบ้าน ทำให้ลูกค้าได้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย ความสุข ที่อยู่ร่วมแช่น้ำในอ่างกับสมาชิกของครอบครัว ซึ่งช่วงหน้าหนาวอ่างน้ำร้อนจะทำให้บ้านกลายเป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนสไตล์รีสอร์ท ของพื้นที่ภายนอกบริเวณรอบบ้านได้อย่างลงตัว

  สำหรับอุณหภูมิช่วงฤดูหนาวในจังหวัดพื้นที่ภาคกลาง จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 22 - 27 องศา ทางคิวแอนด์จีจะแนะนำให้ทำการตั้งค่าอุณหภูมิ โดยเลือกอุณหภูมิที่ลูกค้าต้องการ เช่น ลูกค้าต้องการอุณหภูมิน้ำอุ่นที่ 38 องศา ก็ทำการตั้งค่าระบบให้อยู่ที่ 38 องศา ไปเลยโดยไม่ต้องมาปรับแต่งอุณหภูมิภายหลัง เป็นต้น ทางคิวแอนด์จีจะไม่แนะนำให้ลูกค้าเลือกตั้งอุณหภูมิน้ำตามอุณหภูมิอากาศที่หนาวเย็นจากภายนอก แล้วค่อยมาตั้งน้ำอุ่นเมื่อต้องการจะลงอ่างภายหลัง

เนื่องจากระบบจะใช้เวลาในการสร้างอุณหภูมิน้ำอุ่นมากกว่าช่วงหน้าร้อน และ ช่วงหน้าฝน ยกตัวอย่างเช่น หากอุณหภูมิอากาศอยู่ที่ 22 องศา ถ้าลูกค้าต้องการอุณหภูมิน้ำอุ่น 38 องศา ลูกค้าจะต้องรอให้ระบบท้ำน้ำร้อนถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกค้าเสียเวลา หมดอารมณ์รอคอยไปกับการแช่น้ำ ยังเป็นการสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้ามากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดให้ระบบรักษาอุณหภูมิความร้อนคงที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะระบบฮีทเตอร์จะทำงานเพียงแค่บางช่วงของวัน โดยใช้เวลาทำงานต่อครั้งเพียง 15 - 30 นาทีเท่านั้น เพื่อรักษาอุณหภูมิน้ำอุ่นที่ลดลงจากอุณหภูมิที่ลูกค้าได้เลือกตั้งค่าไว้

แต่สำหรับลูกค้าที่อยู่ในพื้นจังหวัดเมืองหนาวทางภาคเหนือ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15 - 21 องศา ทางคิวแอนด์จีจะแนะนำให้ทำการตั้งค่าอุณหภูมิของอ่างน้ำร้อน แบบรักษาน้ำอุ่นให้มีความร้อนคงที่ 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับ ลูกค้าที่มีอ่างน้ำร้อนติดตั้งอยู่ในช่วงหน้าหนาวของจังหวัดภาคกลาง สาเหตุเพราะการเปิดให้ระบบทำน้ำอุ่นทำงานเท่ากับอุณหภูมิอากาศภายนอก จะทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้ามากกว่านั่นเอง

  สำหรับลูกค้าที่ต้องการแช่น้ำเย็นภายในอ่าง Outdoor ทางคิวแอนด์จีจะแนะนำให้ลูกค้าเลือกอุณหภูมิ ให้ตรงกับอุณหภูมิอากาศภายนอกขณะนั้น เช่น ในช่วงฤดูหนาวในพื้นเขาใหญ่ ซึ่งมีอุณหภูมิอากาศอยู่ที่ 20 องศา ก็ให้ลูกค้าเลือกตั้งค่าอุณหภูมิน้ำในอ่าง ให้อยู่ที่ 20 องศา เพื่อไม่ให้ระบบทำความร้อนเกินกว่าอุณหภูมิ 20 องศา ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถลงไปแช่น้ำเย็น ที่อุณหภูมิ 20 องศา ตามอุณหภูมิสภาพอากาศของเขาใหญ่ได้ตามความชอบ เป็นต้น
เกร็ดเรื่องการใช้งานและการดูแลอ่างน้ำร้อน ที่ส่งผลต่อค่าไฟฟ้า

  วิธีการใช้งานอ่างน้ำร้อนและการดูแลอ่าง ส่งผลต่อการประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างไร หากลูกค้าเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบ การจัดปาร์ตี้ การจัดงานเลี้ยง งานสังสรรค์ พร้อมลงแช่น้ำอ่างน้ำร้อนร่วมกับเพื่อน และ ครอบครัว ในพื้นที่บริเวณภายนอกบ้าน การอาบน้ำก่อนลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน และ การเตรียมเสื้อผ้าที่สะอาด ที่ไม่ได้ซักด้วยผงซักฟอก สำหรับกลุ่มเพื่อน และ สมาชิกในครอบครัว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะป้องกัน ปัญหาน้ำเสียหลังจากจบงานเลี้ยงได้ รวมไปถึงการไม่อนุญาติให้สมาชิกในครอบครัว นำอาหาร ของกินเล่น ลงไปรับประทานขณะแช่น้ำในอ่าง ก็เป็นวิธีป้องกันปัญหาน้ำเสียหลังงานเลี้ยงได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งหากลูกค้าพบกับปัญหาน้ำเสียหลังงานปาร์ตี้ ทางคิวแอนด์จีแนะนำให้เปลี่ยนน้ำใหม่ เมื่อลูกค้าทำการเปลี่ยนน้ำใหม่ ลูกค้าก็ต้องเปิดให้ระบบฮีทเตอร์ทำความร้อนทำงานใหม่ เพื่อสร้างน้ำอุ่นจากอุณหภูมิน้ำปกติ ไปยังอุณหภูมิน้ำร้อนที่ลูกค้าต้องการ  โดยใช้เวลาทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ซึ่งหากลูกค้ามีการเปลี่ยนน้ำบ่อยครั้งมากเท่าไหร่ ก็จะส่งผลต่อการเพิ่มอัตราค่าใช้ไฟฟ้าให้สูงขึ้นไปตามเท่านั้น ดังนั้น การลดความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำ จึงสามารถช่วยลดอัตราค่าไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าได้ 

การรักษาความสะอาดภายในอ่างน้ำร้อน Outdoor สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจากการทำงานของระบบฮีทเตอร์ได้อีกด้วย เพราะอ่างน้ำร้อนที่สภาพน้ำสกปรก มีปัญหาน้ำเขียว น้ำขุ่น น้ำเหลือง น้ำแดง มีปัญหาของกลิ่นเหม็น เนื่องจากมีการเติบโตของสิ่งปนเปื้อนที่อยู่ในน้ำ ต้นเหตุของปัญหา และ การใช้งานอ่างน้ำร้อน โดยมีสภาพน้ำที่สกปรก จะทำให้ตัวความร้อนภายในกระบอกฮีทเตอร์ รวมไปถึงระบบเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการไหลของน้ำ และ เซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดต่ำลง

เช่น โดยปกติความสามารถในการทำน้ำอุ่นของอ่างน้ำร้อน จะสร้างอุณหภูมิเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยที่ 2 องศาเซลเซียส ต่อหนึ่งชั่วโมง แต่เมื่อระบบภายในเกิดการอุดตัน มีสิ่งสกปรกเกาะตัวที่แท่งทำความร้อน มีไส้กรองที่หมดอายุการใช้งาน มีไส้กรองที่เสื่อมสภาพ การอุดตันของไส้กรองส่งผลให้ ปั๊มพ์หมุมนเวียนทำการดูดน้ำเข้าสู่ระบบฮีทเตอร์ได้ช้าลง จึงทำให้ประสิทธิภาพการสร้างอุณหภูมิลดต่ำลงเหลือ 1 องศา ต่อ ชั่วโมงได้ ลักษณะของปัญหาข้างต้น จะส่งผลต่ออัตราค่าไฟฟ้าที่ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้น จากการทำงานของระบบในสภาพอ่างที่มีน้ำสกปรกไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม


  การเลือกอุณหภูมิน้ำอุ่น ให้เหมาะกับสภาพอากาศ ฤดูกาล และ พฤติกรรมการใช้งาน ไม่ได้เป็นการปิดระบบไฟฟ้า หรือ การปิดการทำงานทุกระบบของอ่างน้ำร้อน Outdoor เช่น ลูกค้าปิดเบรกเกอร์ที่เป็นตัวจ่ายไฟฟ้าไปยังอ่างน้ำร้อนเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ เมื่อลูกค้าไม่ได้ใช้งานอ่างน้ำร้อน เป็นต้น

การปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมด เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ในขณะเดียวกันลูกค้าไม่ได้ถ่ายน้ำทิ้ง มีน้ำเต็มอ่าง ผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้พบ คือ น้ำในอ่างเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น น้ำเปลี่ยนสภาพเป็นสีเขียว มีสภาพน้ำขุ่น เพราะการปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมดของอ่าง จะเป็นการปิดระบบการกรองน้ำและระบบโอโซนของอ่างน้ำร้อนด้วย อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ปัญหาน้ำเสียของอ่างน้ำร้อนสามารถส่งผลต่ออัตราค่าไฟฟ้าให้เพิ่มสูงขึ้นได้

นอกจากนี้การเลือกอุณหภูมิน้ำอุ่นในอ่างน้ำร้อน เพื่อจุดประสงค์ในการหยัดค่าไฟฟ้า ไม่ได้เป็นการปรับลดระยะเวลาในการทำงานของระบบการกรองน้ำ เพื่อลดการทำงานของปั๊มพ์หมุนมเวียนน้ำ ซึ่งระบบกรองน้ำเป็นระบบสำคัญที่ทำให้น้ำในอ่างใสสะอาด ในการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อน Outdoor ทางคิวแอนด์จีจะไม่แนะนำให้ลูกค้า ปรับลดช่วงโมงการทำงานของระบบกรองน้ำ เพราะหากน้ำในอ่าง ไม่ได้รับการกรองน้ำในระยะเวลาที่เพียงพอ จะส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเสียในอ่างได้เช่นเดียวกัน
ข้อมูลโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิวแอนด์จี Q&G Limited Partnership
ติดต่อ 087 - 816 - 6383
อีเมล์ Ask.QandG@gmail.com
QandGTub.com 
โดย Q&G 23 เมษายน 2567
  ในบทความนี้ทางคิวแอนด์จี จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอ่างน้ำร้อน ( Hot Tub ) ที่นอกจากจะให้ประโยชน์ด้านความเป็นส่วนตัวได้หลากหลายแง่มุมแล้ว สามารถเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับการพักผ่อนบริเวณภายนอกบ้าน สามารถยกระดับในด้านความความสุขความผ่อนคลาย จากคุณสมับติการทำงานของอ่างน้ำร้อน รวมไปถึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมให้ได้ใช้เวลาร่วมกับสมาชิกภายในครอบครัว  ซึ่งอ่างน้ำร้อนยังสามารถให้ประโยชน์ในเชิงสุขภาพและการบำบัดปัญหาต่าง ๆ ด้านร่างกายได้อีกด้วย
 
  การลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถสร้างคุณประโยชน์ต่อด้านร่างกายได้หลากหลาย โดยการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟู การบำบัด การบรรเทาอาการเจ็บปวด และ ปัญหาด้านสุขภาพได้ตามศาสตร์ของธาราบำบัด การแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถส่งผลให้เกิดประโยชน์ด้านสุขภาพ ได้จาก 3 ปัจจัยหลัก ดังต่อไปนี้

  1. ระบบนวดเจ็ท ( Hydrotherapy Jets Massage )
  2. อุณหภูมิของน้ำอุ่น ( Warm Water ) อุณหภูมิความร้อน 35 - 40 องศาเซลเซียส
  3. คุณประโยชน์จากแรงพยุงตัวของน้ำ ( Buoyancy )
โดย Q&G 19 เมษายน 2567
  ในบทความนี้ทางคิวแอนด์จี จะนำเสนอแง่มุมข้อดีของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อน เพื่ออธิบายเพิ่มเติม ถึงความจำเป็นของประเภทสินค้า ที่กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบให้กับบ้าน สำหรับผู้คนจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยมีการตอบรับที่สะท้อนให้เห็นถึงกระแสความต้องการ จนทำให้อุตสาหกรรมการผลิตอ่างน้ำร้อนเติบโตในวงกว้าง ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์โดยตรงเฉพาะส่วนบุคคลแล้ว ยังสามารถให้ผลดีต่อเนื่องแก่สังคมครอบครัว เครือข่ายความสัมพันธ์ของผู้คนใกล้ตัวได้อีกด้วย
โดย Q&G 8 เมษายน 2567

  ในบทความนี้ทางคิวแอนด์จี จะมานำเสนอแง่มุมคุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อน เพื่อใช้สำหรับการแช่น้ำอุ่นบริเวณพื้นที่ภายนอกบ้าน ที่จะส่งผลให้ข้อดีต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ( Privacy ) เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิต การเพิ่มระดับคุณภาพชีวิต การให้คุณค่าของความสุขอันพิเศษเฉพาะตน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้าน อันเป็นสถานที่ให้ความรู้สึกสบายใจได้ทุก ๆ วัน


เพื่อความผ่อนคลาย แบบส่วนตัว


  คุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อนภายนอกบ้าน คือ การสร้างพื้นที่ในการพักผ่อนแบบส่วนตัว โดยลูกค้าสามารถผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำที่บ้าน โดยไม่ต้องพบปะคลุกคลีกับบุคคลอื่นที่เราไม่ได้รู้จัก การผ่อนคลายในสถานที่ส่วนตัว เป็น  ความสุข ด้วยการหลีกออกจากสังคมภายนอก ต่างไปจากการใช้บริการในสถานดูแลสุขภาพ เช่น ส่วนกลางสปาของโรงแรม รีสอร์ท บ่อน้ำอุ่นแบบรวม ศูนย์ธาราบำบัด บ่อน้ำแร่ออนเซ็น เป็นต้น


Show More