ข้อมูลระบบนวดในอ่างน้ำร้อน Outdoor
- โดย Q&G
- •
- 07 ส.ค., 2564
- •
รายละเอียดของระบบนวดอ่างน้ำร้อนสำหรับภายนอกบ้าน การเปรียบเทียบ และ ราคา ความเป็นมาของคำว่า "จากุซซี่"

ระบบนวดทั้งในอ่างอาบน้ำ อ่างน้ำร้อน อ่างน้ำสปา อ่างน้ำวน จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ
ระบบนวดแบบเจ็ท ( Jet system )
เกิดจากการทำงานของ 2 ส่วน คือ น้ำและอากาศ โดยใช้กำลังจากปั๊มผลักน้ำเข้าสู่ระบบท่อ แล้วส่งน้ำไปยังหัวนวด ผสานกับการดูดอากาศเพื่อสร้างแรงดันในการนวดออกมา ระบบนวดหัวเจ็ทจะสามารถสร้างผลลัพธ์ในด้านของการนวดต่อลูกค้าได้ดีกว่าหัวนวดลมหรือระบบนวดแรงดันอากาศ ซึ่งหัวนวดเจ็ทจะสร้างแรงดันของการนวดอยู่ใต้น้ำ ดังนั้นลูกค้าจะเห็นความเคลื่อนไหวจากทำงานที่เกิดขึ้นของหัวนวดเจ็ทที่อยู่บนผิวน้ำน้อยกว่าหัวนวดลม ดังภาพ
ระบบนวดแรงดันอากาศ ( Air system ) หรือ ระบบหัวนวดลม เป็นการใช้ปั๊มลมส่งอากาศเข้าสู่หัวนวด สามารถทำให้เกิดการเคลื่อนไหวบนผิวน้ำได้ดี เมื่อลูกค้ามองจากภายนอกอ่างจะรู้สึกว่า ระบบหัวนวดลมแรงกว่าระบบนวดเจ็ท แต่ในความเป็นจริงแล้วระบบนวดลมนั้นมีประสิทธิภาพในการนวดที่จะส่งผลลัพธ์ต่อการกล้ามเนื้อในระดับที่ต่ำกว่าระบบหัวนวดเจ็ท
โดยความเข้าใจส่วนใหญ่ของคนไทยเกี่ยวกับระบบนวดในอ่างน้ำจะนิยมเรียกว่า ระบบนวดจากุซซี่ การเรียกชื่อของระบบนวดจากุซซี่ของคนทั่วไปนั้นอาจจะหมายรวมถึง ระบบนวด 2 ประเภท คือ ระบบนวดแบบหัวเจ็ท และ ระบบนวดที่เป็นระบบนวดแรงดันอากาศ หรือ หัวนวดลม ที่กล่าวไปข้างต้น
ซึ่งคำว่าจากุซซี่กลายเป็นคำเรียกที่เหมารวม ถึงสิ่งที่มีความเหมือนกันของระบบนวดและอ่างน้ำ ในลักษณะเดียวกับการเรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยส่วนมากที่คุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดก็จะเรียกโดยรวมว่า “มาม่า”
คำว่า "Jacuzzi (จากุซซี่)"
มีต้นกำเนิดมาจากบริษัทผู้ที่คิดค้นระบบนวดแบบหัวเจ็ท ซึ่ง Jacuzzi เป็นชื่อนามสกุลของครอบครัวและใช้ชื่อบริษัทด้วย โดยJacuzziเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ได้ทำการจำหน่ายระบบนวดแบบหัวเจ็ทออกสู่ท้องตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา หนึ่งในพี่น้องของครอบครัวบริษัท Jacuzzi ได้ทำการประดิษฐ์นวัตกรรมระบบนวดหัวเจ็ทออกมาให้กับลูกคนสุดท้องของตนเอง เพื่อลดอาการเจ็บปวดของข้อต่อ ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ซึ่งคุณประโยชน์เหล่านี้ได้รับหลังจาก แช่น้ำในอ่างที่มีระบบนวดแบบหัวเจ็ทและน้ำอุ่นตามศาสตร์ของธาราบำบัด
ลูกของเขาเป็นเด็กที่มีอาการป่วยด้านกระดูกข้อต่อตอนอายุ 2 ขวบ มีจุดเริ่มต้นมาจากการป่วยเป็นคออักเสบ จากนั้นพัฒนาเป็นไข้รูมาติก และขยายตัวต่อเนื่องให้เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ทำให้ได้รับความเจ็บปวดกระดูกข้อต่อและลุกลามไปทั่วร่างกาย ซึ่งหมอที่รักษาอาการป่วยของลูกเขา แจ้งว่าจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 3 ขวบ แต่ด้วยการบำบัดด้วยวิถีแห่งธาราบำบัด จากการแช่น้ำในอ่างที่มีระบบนวดและคุณประโยชน์ของน้ำอุ่นทำให้ลูกของเขามีอายุอยู่ได้มาถึง 75 ปี
การเรียกชื่อแบบเหมาระบบนวดทั้งหมดของอ่างน้ำ ว่าเป็นระบบนวดจากุซซี่ ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่มองว่า อ่างน้ำทุกอ่างมีระบบนวดที่คล้ายคลึงกัน เมื่อลูกค้าไม่มีข้อมูล จึงเกิดความสับสน และไม่สามารถที่จะแยกความแตกต่างระหว่าง อ่างน้ำที่มีราคาจำหน่าย 30,000 บาท กับ อ่างน้ำที่มีราคาจำหน่าย 300,000 บาท รวมไปถึงอ่างน้ำที่มีราคาจำหน่ายเท่ากัน และอ่างน้ำที่มีความต่างระหว่างราคา 180,000 บาท กับ ราคา 360,000 บาท
ระบบนวดเจ็ทเป็นคุณสมบัติหลักของอ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor นอกจากเรื่องของวัสดุ โครงสร้าง ระบบทำความร้อน การเก็บอุณหภูมิความร้อน รูปแบบพื้นที่ใช้สอยภายในอ่าง ขนาดอ่างน้ำ ไม้เทียมรอบอ่าง ระบบกรองน้ำ การฆ่าเชื้อโรค และ อุปกรณ์เสริม การเลือกระบบนวดภายในอ่างน้ำจัดว่าเป็นหัวใจสำคัญในเปรียบเทียบความแตกต่างของอ่างน้ำร้อน โดยลูกค้าสามารถที่จะใช้ปัจจัยดังต่อไปนี้ในการพิจารณาเรื่องระบบนวดเจ็ทของอ่างน้ำร้อน
1. คุณสมบัติการปรับแรงดันที่หัวนวดเฉพาะจุด
หัวนวดเจ็ทที่มีการออกแบบมาให้สามารถปรับระดับความแรง และ ทำการเปิด - ปิด เฉพาะหัวนวดได้ เป็นฟังก์ชั่นที่มีราคาสูงกว่า หัวนวดแบบตายตัว ที่ไม่สามารถที่จะปรับระดับความแรง หรือ ทำการเปิดปิดเฉพาะหัวได้ โดยวิธีการเปิดปิดควบคุมหัวนวดเฉพาะจุดนั้น สามารถทำได้โดยการบิดที่หัวนวด เมื่อบิดตามเข็มนาฬิกาจะเป็นการเปิดให้หัวนวดทำงาน หากบิดทวนเข็มนาฬิกาจะเป็นการปิดหัวนวด
อ่างที่มีการติดตั้งระบบนวดเจ็ทให้เปิดปิดเฉพาะจุดได้นั้น เป็นคุณสมบัติที่ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกเปิดหัวนวดเฉพาะจุดตามต้องการได้ อาทิ กรณีที่ลูกค้าต้องการเปิดใช้หัวนวดที่บริเวณเอวเพียงอย่างเดียว ลูกค้าสามารถที่จะปิดหัวนวดจุดอื่น ๆ ได้ คือ การปิดหัวนวดที่จุดกลางหลัง บ่า คอ น่องขาและฝ่าเท้า ลูกค้าก็จะสามารถผ่อนคลายได้รับความสุขจากการนวดเฉพาะจุดกล้ามเนื้อได้ตามประสงค์ไปพร้อมกับการแช่น้ำอุ่นในอ่าง
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ลูกค้าจะได้ประโยชน์ของฟังก์ชั่นการปรับหัวนวดเฉพาะจุด หากลูกค้าทำงานหนัก มีอาการปวดตึงที่ฝ่าเท้าและน่องขา ลูกค้าสามารถเปิดให้หัวนวดที่น่องขาและฝ่าเท้าทำงานเพียงอย่างเดียวได้ โดยไม่ต้องเปิดให้จุดนวดส่วนหลังทำงาน เพราะการนวดในบริเวณที่ไม่ได้มีความเมื้อยล้า อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกเจ็บระคายเคืองผิวหนังและกล้ามเนื้อได้
ประเภทของหัวนวดเจ็ทจะแบ่งตามลักษณะการสร้างรูปแบบของแรงดันน้ำที่ออกมาจากหัวนวด ทำให้หัวนวดมีคุณสมับติต่างกัน โดยหัวนวดเจ็ทที่จัดจำหน่ายในปัจจบุันสามารแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ
หัวนวดแบบตรง หัวนวดแบบตรงจะสร้างรูปแบบการนวดคล้ายกับไอพ่นเจ็ท โดยการปล่อยมวลน้ำออกมาให้เป็นลักษณะเส้นตรงทรงกรวย หากลูกค้านั่งชิดกับหน้าสัมผัสของหัวนวดแบบตรง จะได้รับการนวดที่ทรงพลังในจุดเดียว เมื่อลูกค้านั่งห่างจากหัวนวด จะได้รับการนวดที่กล้ามเนื้อในวงที่กว้างขึ้น แต่ในขณะเดียวกันจะได้รับแรงดันจากการนวดที่เบาลง ตามระยะความห่างที่เพิ่มขึ้นจากหัวนวด
หัวนวดแบบตรงส่วนใหญ่จะมีคุณสมับติในการปรับทิศทางของหัวนวดแบบรอบตัวได้ 30 องศา เพื่อให้ลูกค้าปรับหัวนวดให้ตรงกับตำแหน่งของกล้ามเนื้อที่ต้องการได้ ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่งหัวนวดทีติดตั้งบริเวณเอว ใกล้กระดูกสันหลังส่วนล่าง แต่หากลูกค้าต้องการนวดในจุดกล้ามเนื้อที่ห่างออกจากกระดูกสันหลังออกไป ก็สามารถที่จะปรับทิศทางของหัวนวดนั้นไปยังจุดกล้ามเนื้อที่ไกลจากกระดูกสันหลังได้
ด้วยกลไกลการทำงานของหัวนวดแบบหมุนทำให้แรงดันน้ำที่ส่งออกมาลดลงกว่าหัวนวดแบบตรง แต่ลูกค้าจะได้รับความรู้สึกที่ผ่อนคลายต่างออกไปจากหัวนวดแบบตรง ทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ใช้หัวนวดแบบหมุน คลายความตึงของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเลือดในบริเวณกล้ามเนื้อนั้น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม และทำให้รู้สึกเบาสบายในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้หากเปรียบเทียบความรู้สึกของการนวดโดยหัวนวดแบบหมุนจะสร้างการนวดที่นิ่มนวลกว่าหัวนวดแบบตรง เมื่อเปรียบเทียบหัวนวดขนาดเดียวกัน
หัวนวดแบบหมุนจะไม่สามารถปรับทิศทางได้ หัวนวดแบบหมุนจำเป็นต้องอาศัยปั๊มที่กำลังสูงกว่าหัวนวดแบบตรง เพื่อให้เกิดรูปแบบการนวดตามกลไกของหัวนวดที่ถูกออกแบบมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ข้อควรทราบ : อ่างน้ำร้อน Outdoor ระดับราคาสูงที่ผลิตในอเมริกา จะมีการติดตั้งหัวนวดเจ็ทที่มีคุณสมบัติในการสร้างแรงดันของการนวด ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะยี่ห้อของผู้ผลิต นอกเหนือจากประเภทหัวนวดแบบตรงและแบบหมุนที่กล่าวไปข้างต้น
อ่างน้ำร้อนแต่ละรุ่นจะมีการออกแบบเลือกติดตั้งขนาดของหัวนวดเจ็ทที่ไม่เหมือนกัน ภายในอ่างหนึ่งอ่างก็จะมีการเลือกติดตั้งขนาดหัวนวดที่ต่างกันในแต่ละที่นั่ง และ ที่นอน วัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าสามารถได้รับการนวดในตำแหน่งของกล้ามเนื้อที่หลากหลาย โดยส่วนใหญ่ ขนาดของหัวนวดจะแบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
1. หัวนวดขนาดเล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลางหน้าสัมผัสอยู่ที่ 2 นิ้ว ถึง 2.25 นิ้ว
2. หัวนวดขนาดกลาง มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่หน้าสัมผัสอยู่ที่ 3 นิ้ว ถึง 4 นิ้ว
3. หัวนวดขนาดใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางของหน้าสัมผัสอยู่ที่ 5 นิ้ว ถึง 5.25 นิ้ว
นอกจากนี้จะมีหัวนวดขนาดใหญ่พิเศษ ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหน้าสัมผัสที่ 7 นิ้ว - 7.5 นิ้ว ซึ่งจะมีการติดตั้งหัวนวดขนาดใหญ่พิเศษเฉพาะในอ่างน้ำร้อนระดับบนที่มีราคาสูง โดยผู้ผลิตจะออกแบบติดตั้งสำหรับการนวดในส่วนฝ่าเท้าที่มีปลายประสาท เพื่อกระตุ้นการทำงานอวัยวะภายในส่วนอื่นของร่างกาย ระบบหัวนวดเจ็ทที่ฝ่าเท้ายังช่วยในการบำบัดบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากพังผืดที่ฝ่าเท้า หรือ โรครองช้ำ และ การใช้ติดตั้งนวดบริเวณเอว เพื่อบำบัดรักษาบรรเทาอาการปวดของโรคกระดูกสันหลังกดทับ
โดยหลักการแล้วหัวนวดที่มีขนาดเล็กจะมีแรงบีบอัดหรือแรงดันที่สูง แต่จะมีอัตราการส่งน้ำออกมายังหัวนวดต่ำ หากจะกล่าวให้เห็นภาพ คือ เหมือนกับการที่เราใช้นิ้วบีบที่หัวสายยาง แรงดันของน้ำที่ออกมาจากสายยางจะมีความแรงขึ้นและมีระยะในการส่งน้ำออกไปได้ไกลกว่าการที่เปิดใช้สายยางแบบปกตินั่นเอง ซึ่งหัวนวดเจ็ทขนาดเล็กจะสร้างผลลัพธ์ของการนวดในส่วนชั้นผิวหนังได้ดี ในขณะที่เดียวกันจะสร้างความผ่อนคลายในส่วนกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกลงไปได้น้อยกว่า
ส่วนหัวนวดที่มีขนาดใหญ่จะมีแรงบีบอัดหรือแรงดันต่ำ แต่จะมีอัตราการส่งน้ำออกมาที่หัวนวดในปริมาณที่สูง ซึ่งจะสร้างผลลัพธ์ของการในส่วนของชั้นกล้ามเนื้อส่วนลึกได้ดี ในทางกลับกันจะส่งผลต่อความรู้สึกที่ชั้นผิวหนังได้ต่ำกว่า ลูกค้าจะได้รับสัมผัสของการนวดที่ชั้นผิวหนังในวงกว้างกว่าหัวนวดขนาดเล็ก และทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้การไหลเวียนของเลือดได้อย่างดีเยี่ยม
แต่ในตำแหน่งกล้ามเนื้อที่ได้รับการนวดโดยหัวนวดขนาดใหญ่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ได้รับการนวดที่นิ่มนวลกว่าหัวนวดขนาดเล็ก ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บที่ผิวหนัง ในขณะเดียวกันสามารถที่จะทำให้ลูกค้าเปิดใช้งานระบบนวดได้นานกว่าหัวนวดขนาดเล็ก เพราะคุณสมบัติของหัวนวดขนาดใหญ่ที่ส่งผลลัพธ์ต่อชั้นกล้ามเนื้อส่วนลึก ทำให้ช่วยลดอาการปวด อาการตึงของกล้ามเนื้อ และเมื่อเปรียบเทียบด้านผลลัพธ์ของประสิทธิภาพในการนวดในระยะยาว เช่น หากลูกค้านวดด้วยหัวขนาดใหญ่เป็นระยะเวลา 2 - 3 สัปดาห์ หัวนวดขนาดใหญ่จะให้ประสิทธิภาพของการนวดต่อกล้ามเนื้อได้ดีเยี่ยมกว่า
เมื่ออ้างอิงตามข้อมูลคุณสมบัติเปรียบเทียบระหว่างหัวนวดขนาดเล็กและหัวนวดขนาดใหญ่ ลูกค้าอาจจะรู้สึกว่า หัวนวดขนาดเล็กมีประโยชน์น้อยกว่าหัวนวดขนาดใหญ่ แต่ในการออกแบบติดตั้งระบบนวดในอ่างน้ำร้อน ไม่ว่าจะเป็นอ่างน้ำร้อนระดับบนที่มีราคาสูง และ อ่างน้ำร้อนระดับกลาง ก็ยังไม่มีอ่างน้ำร้อนรุ่นไหน และ อ่างน้ำร้อนยี่ห้อใด ที่ติดตั้งเฉพาะหัวนวดขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียวแบบ 100 % สาเหตุก็เพราะผู้ผลิตจะเลือกติดตั้งขนาดหัวนวดเพื่อทำหน้าที่ในการนวด ตามความแตกต่างของอวัยวะและกล้ามเนื้อให้เหมาะสม เพราะอวัยวะตามร่างกายไม่ได้มีชั้นความหนาของกล้ามเนื้อที่เหมือนกัน บางส่วนมีชั้นกล้ามเนื้อที่บางกว่า จะได้รับประโยชน์จากการนวดด้วยการติดตั้งหัวนวดขนาดเล็กได้อย่างลงตัวและรวดเร็วกว่าหัวนวดขนาดใหญ่
ในอ่างน้ำร้อนแต่ละรุ่นจะมีตำแหน่งที่นั่งและที่นอนหลากหลาย อาทิ อ่างน้ำร้อนแบบ 5 ที่นั่ง 1 นอน ผู้ผลิตสามารถที่จะออกแบบเลือกติดตั้งให้ตำแหน่งที่นั่งหนึ่งเป็นการนวดชั้นผิวหนัง ตำแหน่งที่นั่งถัดไปเป็นการนวดในส่วนชั้นกล้ามเนื้อส่วนลึกขึ้นก็ได้ เพื่อให้ลูกค้าได้สลับเปลี่ยนที่นั่งและได้รับคุณประโยชน์ของขนาดหัวนวดที่ต่างกันออกไป
การแบ่งแยกขนาดของหัวนวด นอกจากใช้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหน้าสัมผัสของหัวนวดแล้ว จะต้องใช้เบ้าของหัวนวดเป็นตัวชี้วัดด้วย เพราะในปัจจุบันยังมีผู้ผลิตทำการติดตั้งหัวนวดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหน้าสัมผัสคนละขนาด แต่ใช้เบ้ารับของหัวนวดในขนาดที่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น มีการติดตั้งเบ้าหัวนวดขนาด 2 นิ้ว โดยมีหัวนวดส่วนหน้าที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5 นิ้ว เป็นต้น
การติดตั้งหัวนวดในลักษณะที่เหมือนกับการหลอกลวงนี้ ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดว่าในอ่างนั้น ๆ มีหัวนวดหลายขนาด แต่ในความจริงแล้วเป็นหัวนวดขนาดที่มีเบ้ารับเท่ากัน ซึ่งการติดตั้งหัวนวดหน้าสัมผัส 3.5 นิ้ว แต่ใช้เบ้ารับ 2 นิ้ว ก็จะได้คุณสมบัติของการนวดไม่แตกต่างจากหัวนวดขนาด 2 นิ้ว ที่ใช้เบ้ารับ 2 นิ้ว เพราะการติดตั้งในลักษณะนี้จะทำให้มีอัตราการส่งน้ำในปริมาณที่เท่ากัน
การออกแบบเลือกวางตำแหน่งของหัวนวดเจ็ทภายในอ่างน้ำร้อน เป็นปัจจัยที่สำคัญของระบบนวดที่จะสร้างประโยชน์ต่อลูกค้า หากลูกค้ามีปัญหาอาการปวดเมื่อย อาการตึงของกล้ามเนื้อส่วนใด ก็ควรใช้ปัจจัยข้อนี้พิจารณาเป็นอันดับแรก อาทิ หากลูกค้ามีอาการปวดเมื่อยส่วนขาและฝ่าเท้า ควรเลือกอ่างน้ำร้อนที่มีนอน มีตำแหน่งหัวนวดในจุดน่องขาและฝ่าเท้า เพราะหากลูกค้าเลือกอ่างน้ำร้อนที่มีแต่ที่นั่งเพียงอย่างเดียว หรือเลือกอ่างที่มีที่นอน แต่ไม่มีหัวนวดที่น่องขาและฝ่าเท้า ลูกค้าก็จะไม่ได้ประโยชน์ของระบบนวดได้ตรงต่อความต้องการ
อีกตัวอย่างหนึ่ง ในกรณีที่ลูกค้ามีปัญหาเรื่องภาวะความตึงเครียด ที่ส่งผลต่อร่างกายทำให้เกิดอาการปวดตึงบริเวณคอ บ่า รวมไปถึงความตึงเครียดของที่บริเวณใต้ขาท่อบน อันเกิดจากการทำงานนั่งโต๊ะจึงทำให้กล้ามเนื้อเกร็งปวดสะสม ลูกค้าก็ควรที่จะเลือกติดตั้งอ่างน้ำร้อนที่มีการออกแบบติดตั้งหัวนวดในตำแหน่งคอ บ่า และ ใต้ขาท่อนบน
ในการเริ่มต้นพิจารณาอ่างน้ำร้อน Outdoor หากลูกค้าใช้ราคาขายของอ่างน้ำเป็นปัจจัยแรกในเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน โดยไม่ได้พิจารณาเรื่องของตำแหน่งหัวนวด ที่จะสร้างประโยชน์ สร้างความผ่อนคลายให้กับลูกค้า ลูกค้าก็อาจจะได้อ่างน้ำร้อนที่ไม่ตอบโจทย์ในการนวดใหักับลูกค้า เพราะส่วนใหญ่แล้วอ่างน้ำร้อนที่มีราคาต่ำ จะไม่ได้มีการออกแบบเลือกติดตั้งตำแหน่งของหัวนวดโดยคำนึงถึง ความต้องการตามสรีระร่างกายและปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า
เช่น ลูกค้าจะเห็นอ่างน้ำที่ติดตั้งหัวนวดไว้ที่ผนังอ่าง ที่ไม่ใช่ตำแหน่งของที่นอน เมื่อเปิดระบบนวดลูกค้าจะเห็นว่ามีการเคลื่อนไหวของน้ำ มีเสียงน้ำและการทำงานของระบบนวด แต่ในความเป็นจริงแล้วหัวนวดเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในจุดที่ควรจะทำการนวดให้กับลูกค้าเลย และในอ่างน้ำร้อนบางอ่างที่มีราคาต่ำอาจจะมีการติดตั้งหัวนวดเพียง 1 จุด ถึง 2 จุด เท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะติดตั้งไว้ที่ตำแหน่งกลางหลังเพียงจุด ซึ่งลูกค้าก็จะไม่ได้ประโยชน์ของระบบนวดที่จะส่งผลต่อกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่ต้องการได้
ภายในอ่างน้ำร้อนจะมีที่นั่งและที่นอนหลายตำแหน่งนั้น ให้ลูกค้าพิจารณาในแต่ละที่นั่งและที่นอนว่า ตำแหน่งหัวนวดมีการออกแบบติดตั้งในจุดเดียวกันหรือไม่ โดยทางคิวแอนด์จีจะแนะนำให้เลือกอ่างน้ำร้อนที่มีการติดตั้งหัวนวด ในแต่ละที่นั่งที่นอนที่ไม่เหมือนกัน เช่น ที่นั่ง 1 มีระบบนวดที่เอว ในบริเวณกล้ามเนื้อใกล้กระดูกสันหลัง ที่นั่งที่ 2 มีระบบนวดที่บริเวณเอว แต่ติดตั้งห่างออกจากกระดูกสันหลัง เพื่อใช้นวดกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณข้างลำตัว ที่นั่ง 3 มีระบบนวดบริเวณใต้ขาท่อบน มีหัวนวดที่ฝ่ามือ เป็นต้น
หากเปรียบเทียบอ่างน้ำร้อนที่มี 5 ที่นั่ง แต่มีการออกแบบติดตั้งตำแหน่งหัวนวดในตำแหน่งเดียวกันทั้งหมดทั้ง 5 ที่นั่ง ลูกค้าก็จะไม่ได้ประโยชน์ของการนวดในตำแหน่งกล้ามเนื้อที่ต่างกันออกไป เพียงแต่ได้สลับเปลี่ยนที่นั่งเพื่อรับวิวในการแช่น้ำเท่านั้น
ปั๊มน้ำเป็นตัวสร้างกำลังของระบบนวดเจ็ทภายในอ่างน้ำร้อน การออกแบบติดตั้งปั๊มน้ำและหัวนวดภายในอ่างน้ำร้อนมีความสัมพันธ์กัน หัวใจสำคัญของทั้งสองส่วน คือ ความเหมาะสมของอัตราส่วนที่ผู้ผลิตเลือกขนาดของปั๊มน้ำให้สามารถสร้างกำลังของระบบนวดได้อย่างลงตัว ในอ่างน้ำร้อน Outddoor โดยทั่วไปแล้ว ปั๊มน้ำ 1 ตัว จะทำหน้าที่ในการจ่ายแรงดันน้ำไปยังหัวนวดเจ็ทจำนวน 20 - 30 หัวนวด การเลือกขนาดของปั๊มน้ำจะต้องคำนึง ระบบท่อน้ำ จำนวนของหัวนวด ประเภทหัวนวด และ ขนาดหัวนวดที่ติดตั้งภายในอ่างน้ำร้อน เพื่อให้แต่ละหัวนวดนั้นสามารถสร้างผลลัพธ์ของการนวดต่อลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เมื่อกล่าวถึงเรื่องปั๊มน้ำโดยส่วนใหญ่ผู้จัดจำหน่ายอ่างน้ำร้อนจะแจ้งข้อมูลเบื้องต้นว่า ได้มีการติดตั้งปั๊มน้ำขนาดกี่แรงม้า มีจำนวนปั๊มที่ติดตั้งภายในอ่างน้ำร้อนสำหรับระบบนวดกี่ต้ว แต่หากจะลงรายละเอียดในเรื่องของคุณภาพระบบนวดแล้ว จะต้องดูที่อัตราการส่งน้ำของปั๊มน้ำด้วย ซึ่งปั๊มน้ำจะมีอัตราในการส่งน้ำที่ต่างกัน แม้ในปั๊มยี่ห้อเดียวกัน มีขนาดแรงม้าเท่ากัน ตัวอย่างเช่น ปั๊มน้ำขนาด 3 แรงม้าตัวแรก มีอัตราการส่งน้ำ 600 ลิตรต่อนาที และ ปั๊มน้ำขนาด 3 แรงม้าตัวที่สอง มีอัตราส่งน้ำ 730 ลิตรต่อนาที เป็นต้น
หลักการในเรื่องอัตราการส่งน้ำของปั๊มที่เลือกมาให้เหมาะกับระบบนวด คือ หากผู้ผลิตอ่างน้ำร้อนติดตั้งหัวนวดจำนวนมาก ได้ทำการเลือกใช้ประเภทของหัวนวดที่ต้องการแรงดันสูงอย่างหัวนวดแบบหมุน และมีการเลือกใช้หัวนวดขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีการติดตั้งปั๊มน้ำในขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย รวมทั้งต้องมีการใช้จำนวนปั๊มน้ำเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในอ่างน้ำร้อนที่มีหัวนวดเจ็ทจำนวน 50 หัว จำเป็นต้องมีการติดตั้งปั๊มน้ำจำนวน 2 ตัว เพื่อให้สามารถสร้างแรงดันในการนวดแต่ละหัวเจ็ทได้เต็มประสิทธิภาพ เป็นต้น หากผู้ผลิตคำนวณการเลือกใช้ขนาดของปั๊มน้ำ และ จำนวนปั๊มน้ำที่จะติดตั้งลงไปในอ่างผิดพลาด ผลกระทบก็จะตกมาที่ผู้ซื้อ ที่จะได้รับอ่างน้ำร้อนที่มีระบบนวดเบา
หัวนวดขนาดใหญ่ 5 นิ้ว เป็นหัวนวดแบบหมุน จำนวน 2 หัว
หัวนวดขนาดกลาง 3.5 นิ้ว เป็นหัวนวดแบบหมุน จำนวน 33 หัว
หัวนวดขนาดเล็ก 1 นิ้ว เป็นหัวนวดแบบตรง จำนวน 2 หัว
อ่างน้ำร้อนรุ่นนี้มีการใช้ปั๊มน้ำขนาด 3 แรงม้า จำนวน 1 ตัว สำหรับระบบนวด โดยมีอัตราการส่งน้ำอยู่ที่ 600 ลิตรต่อนาที ผลลัพธ์ที่ได้จากการนวดเมื่อเปิดให้ระบบนวดทั้งหมดทำงานพร้อมกัน 37 จุด คือ ระบบนวดแต่ละหัวทำงานเบา มีแรงดันในการนวดที่ต่ำ แถบจะไม่รู้สึกว่ามีการนวดเลย เนื่องจากหัวนวดเจ็ทที่ติดตั้งในอ่างรุ่นนี้เกือบทั้งหมดเป็นหัวนวดแบบหมุน ซึ่งหัวนวดแบบหมุนจะมีความต้องการอัตราการส่งน้ำที่สูงกว่าหัวนวดแบบตรง และมีจำนวนหัวนวดที่มากกว่าอัตราส่วนของปั๊มกำลังส่งน้ำของปั๊ม
ในกรณีนี้ตัวอย่างอ่างน้ำร้อนที่ผู้เขียนเคยทดลองใช้งาน จะทำให้ใช้ระบบนวดได้เพียง 1 - 2 นั่งภายในอ่างเท่านั้น ไม่สามารถที่จะใช้งานทั้ง 2 ที่นอน 3 ที่นั่ง พร้อมกันได้ เพราะหากเปิดระบบนวดพร้อมกันก็จะได้รับการนวดที่เบา จึงจำเป็นต้องปิดระบบนวดครึ่งหนึ่งของอ่าง ( ใช้วาล์วปรับทิศทางน้ำปิดที่นั่งอื่น ๆ ) ซึ่งตัวอย่างข้างต้นทำให้เห็นว่า ปั๊มน้ำที่มีอัตราการส่งน้ำ 600 ลิตรต่อนาที จะสามารถสร้างกำลังของการนวดได้มีประสิทธิภาพที่ 15 หัวนวด ซึ่งเป็นหัวนวดแบบหมุนที่มีหัวนวดขนาด 3.5 นิ้ว
การเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน ลูกค้าจึงจำเป็นต้องพิจารณาในเรื่องของอัตราส่วนของปั๊มน้ำที่ทำหน้าที่ในการสร้างแรงดันระบบนวดภายในอ่าง ต่อจำนวนของหัวนวดที่มีในอ่างน้ำร้อน ประเภทของหัวนวด และ ขนาดของหัวนวดที่เหมาะสมด้วย โดยหลักในการพิจารณาเบื้องต้น คือ ปั๊มน้ำขนาด 3 แรงม้า 1 ตัว ควรมีการติดตั้งหัวนวดไม่เกิน 30 จุด โดยเป็นหัวนวดขนาดกลางผสมหัวนวดขนาดเล็ก และหากภายในอ่างน้ำร้อนรุ่นนั้น ๆ ที่ลูกค้ากำลังเลือกพิจารณาอยู่มีการติดตั้งหัวนวดกลางผสมหัวนวดขนาดใหญ่ ก็ไม่ควรที่จะมีหัวนวดเกิน 15 หัว นอกจากนี้ลูกค้าสามารถที่เลือกพิจารณาได้เพิ่มขึ้น คือ ให้ใช้มือสัมผัสกับหัวนวดแต่ละหัวภายในอ่างน้ำร้อน หรือ ทำการทดลองแช่น้ำใช้งานระบบนวดในอ่างน้ำร้อนที่ลูกค้ากำลังเลือกซื้อ
จุดประสงค์ของระบบนวดภายในอ่างน้ำร้อน Outdoor นั้นออกแบบมาเพื่อให้ทำงานคล้ายกับการนวดด้วยมือของคน ในหลักของการนวดนั้นในความเป็นจริงแล้วไม่จำเป็นต้องใส่แรงให้มากที่สุด เท่าที่จะแรงได้ ให้ลองนึกภาพว่าหากเราไปใช้บริการนวดตัว แล้วหมอนวดทำการกด การบีบที่แรงจนเกินไป เราก็จะได้แต่ความเจ็บปวดกล้ามเนื้อ แทนที่จะได้รับความผ่อนคลายจากการนวด ดังนั้นในการนวด หมอนวดจะพิจารณา ว่าจะจุดไหนของร่างกายควรลงน้ำหนักแรง จุดควรเบามือในการนวด จุดไหนของร่างกายที่จำเป็นต้องเน้น ให้ความสำคัญในการนวดที่นานกว่าจุดอื่น เพื่อลดบรรเทาความเจ็บปวด ความตึงของกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
การออกแบบเลือกติดตั้งระบบนวดและปั๊มน้ำ ก็เช่นเดียวกัน ผู้ผลิตจะไม่ได้คำนึงถึงการเลือกปั๊มน้ำที่แรงที่สุด ติดตั้งลงไปในอ่างน้ำร้อน แต่เป็นการคำนวณ พิจารณาความเหมาะสมของหัวนวด รูปแบบการนวด ตามสัดส่วนอวัยวะของร่างการ ที่จะสร้างความลงตัวในการนวดของอ่างน้ำร้อนให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การสั่งให้ปั๊มน้ำทำงานเราสามารถที่สั่งเปิดปิดได้จากหน้าจอควบคุมของอ่างน้ำร้อน ซึ่งระบบได้ถูกตั้งค่าให้ปั๊มทำงานต่อเนื่อง และ ตัดการทำงานอัตโนมัติ ทุก ๆ 15 นาที ลูกค้าจะไม่สามารถสั่งให้ปั๊มทำงานเบาหรือแรงได้ การสั่งงานจากหน้าจอจะเป็นการควบคุมการเปิดและการปิดปั๊มน้ำเท่านั้น การควบคุมระดับความแรง-เบาของระบบนวด จะใช้ควบคุมที่วาล์วปรับอากาศ วาล์วปรับทิศทางน้ำ และ การเปิดปิดที่หัวนวดในแต่ละจุดตามคุณสมบัติของหัวนวดเจ็ท
วาล์วอากาศ
ใช้สำหรับเปิดช่องลม ให้ระบบนวดสามารถดูดอากาศเข้าไปในท่อและสร้างแรงดันของระบบนวดเจ็ทให้เพิ่มสูงขึ้น การติดตั้งวาล์วอากาศโดยส่วนใหญ่แล้ว วาล์วอากาศ 1 ตัว จะใช้สำหรับเปิดปิดช่องลมสำหรับ 2 - 4 นั่งภายในอ่างน้ำร้อน ซึ่งจะเป็นการควบคุมการใช้งานทุกหัวนวดในตำแหน่งที่นั่งหรือที่นอนไปพร้อมกัน
ตัวอย่างเช่น ในตำแหน่งที่นอน มีหัวนวดทั้งหมด 20 จุด และ ตำแหน่งที่นั่งมีหัวนวดจำนวน 16 จุด เมื่อเปิดวาล์วให้อากาศเข้าระบบนวด หัวนวดทั้ง 20 จุด ในตำแหน่งที่นอน และ หัวนวด 16 จุด ในตำแหน่งที่นั่ง จะได้รับอากาศเข้าไปพร้อมกันทั้งหมด ทำให้ระบบนวดทั้งหมดเพิ่มแรงดันสูงขึ้น หากทำการปิดวาล์วอากาศ ระดับความแรงของหัวนวดในตำแหน่งที่นั่งและที่นอนทั้งหมดก็จะเบาลง เป็นต้น
การออกแบบติดตั้งวาล์วอากาศของอ่างแต่ละรุ่นขึ้นอยู่กับทางผู้ผลิต ในอ่างน้ำร้อนบางรุ่น อาจมีวาล์วอากาศ 1 ตัว เพื่อใช้ในการควบคุมต่อที่ 1 นั่งโดยเฉพาะ ทั้งนี้วาล์วอากาศไม่ได้ทำหน้าที่ผลักอากาศเข้าระบบนวด แต่เป็นเพียงการเปิดช่องลม เพื่อให้แรงดันของปั๊มน้ำทำหน้าที่ในการดูดอากาศจากภายนอกเข้าไปยังหัวนวด ซึ่งแตกต่างกับระบบนวดแรงดันอากาศ ( Air nozzles ) ที่ใช้ปั๊มลมในการผลักอากาศเข้าสู่หัวนวดลม
ใช้สำหรับการควบคุมทิศทางของปั๊มน้ำที่ส่งไปยังระบบนวด ยกตัวอย่างเช่น วาล์วปรับทิศทางน้ำสามารถที่จะปิดการทำงานของ 1 ที่นั่งภายในอ่าง แล้วดึงกำลังน้ำทั้งหมดของที่นั่งไปยังที่นอน เพื่อใช้สำหรับเพิ่มกำลังของระบบนวดในตำแหน่งที่นอน ลูกค้าก็จะได้รับการนวดที่แรงพิเศษ เพราะแรงดันของปั๊มน้ำทั้งหมดมาอยู่ที่ตำแหน่งเดียวซึ่งสามารถที่จะปรับทิศทางของน้ำให้ทำงานสลับกันก็ได้ ในการตั้งวาล์วปรับทิศทางน้ำ สามารถที่จะตั้งให้วาล์วอยู่ระดับกลาง เพื่อให้แรงดันน้ำที่ส่งมาจากปั๊มกระจายแรงดันไปยังหัวนวดทุกหัวในปริมาณน้ำที่เท่ากันก็ได้ ฟังก์ชั่นนี้ลูกค้าจะได้ใช้ประโยชน์ในตอนเริ่มต้นลงอ่างน้ำร้อน เพื่อรับการนวดที่มีกำลังแรง ให้ร่างกายได้คลายความปวด อาการตึงต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
จำนวนหัวนวดที่ติดตั้งภายในอ่างน้ำร้อน Outdoor จะเป็นข้อมูลแรก ๆ ที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อเริ่มต้นค้นหาเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน จำนวนหัวนวดในอ่างน้ำร้อนเป็นเพียงข้อมูลสรุปเบื้องต้น เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจโดยภาพรวม ซึ่งจำนวนหัวนวดเป็นข้อมูลตัวเลขที่สามารถเข้าใจและจดจำได้ง่าย แต่ก็เป็นประเด็นที่ทำให้ลูกค้าโดยส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบนวดในอ่างน้ำร้อนได้มากที่สุด
ภายในอ่างน้ำร้อนที่มีจำนวนหัวนวดมาก ไม่ได้หมายความว่าอ่างน้ำร้อนรุ่นนั้นจะมีระบบนวดคุณภาพสูงกว่าอ่างน้ำร้อนที่มีจำนวนหัวนวดน้อย และอ่างน้ำร้อนรุ่นใดที่มีจำนวนหัวนวดมากนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นอ่างที่มีความคุ้มค่าด้านราคามากกว่าอ่างน้ำร้อนที่มีจำนวนหัวนวดน้อย
ในการพิจารณาด้านระบบนวดที่เป็นคุณสมบัติหลักของอ่างน้ำร้อนนั้น ไม่ใช่การเปรียบเทียบด้วยเกมตัวเลขจำนวนของหัวนวดเท่านั้น แต่จะต้องพิจารณาถึงคุณภาพของหัวนวด คุณสมบัติ ราคา และ ความเหมาะสมด้านกำลังของระบบนวดภายในอ่างน้ำร้อน
ราคาของหัวนวดเจ็ท ( Jet Nozzles ) นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของหัวนวด คุณสมับติการควบคุมการทำงานของหัวนวด กลไกลการทำงานของหัวนวด วัสดุหน้าสัมผัสของหัวนวด คุณภาพเบ้าหัวนวดเจ็ทของการป้องกันการรั่วซึม ในการติดตั้งหัวนวดเข้ากับอ่างน้ำ และขนาดของหัวนวด นอกจากนี้ราคาของหัวนวดยังขึ้นอยู่กับแหล่งผลิตและยี่ห้อของหัวนวดด้วย โดยราคาของหัวนวดเจ็ทโดยสรุปทั้งอ่างที่ผลิตในประเทศจีนและอ่างน้ำที่ผลิตในอเมริกาจะราคาเฉลี่ยในการจัดจำหน่ายดังต่อไปนี้
1. หัวนวดเจ็ท ขนาดเล็ก 2 นิ้ว และ 2.25 นิ้ว จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 300 - 800 บาท
2. หัวนวดเจ็ท ขนาดกลาง 3 นิ้ว ถึง 4 นิ้ว จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 800 - 2,000 บาท
3. หัวนวดเจ็ท ขนาดใหญ่ 5 นิ้ว ถึง 5.25 นิ้ว จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,600 - 4,000 บาท
4. หัวนวดเจ็ท ขนาดใหญ่พิเศษ 7 นิ้ว ถึง 7.5 นิ้ว จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 8,500 - 20,000 บาท
5. หัวนวดลม ขนาด 1.5 นิ้ว จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 150 - 700 บาท
การเปรียบเทียบระบบนวดด้วยจำนวนหัวนวดและราคา
กรณีที่ลูกค้าต้องการเปรียบเทียบอ่างน้ำร้อนที่มีขนาดเท่ากัน มีจำนวนหัวนวดที่ใกล้เคียงกัน แต่มีราคาจำหน่ายอ่างต่างกัน คือ อ่างรุุ่นหนึ่งมีราคาขาย 340,000 บาท และอีกรุ่นราคา 180,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าทำไมอ่างน้ำถึงมีความถูกและแพงต่างกัน
ตัวอย่างเช่น
อ่างน้ำร้อน รุ่น C ที่มีระบบนวดจำนวน 52 จุด
- มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 36 จุด มีราคารวม 10,800 บาท
- มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 3.5 นิ้ว จำนวน 4 จุด มีราคารวม 3,200 บาท
- มีหัวนวดลม 12 จุด มีราคารวม 1,800 บาท
- ปั๊มน้ำ 3 แรงม้า 1 ตัว ราคา 35,000 บาท
- ปั๊มลม 700 วัตต์ 1 ตัว ราคา 7,000 บาท
รวมราคาของหัวนวดอยู่ที่ 15,800 บาท
รวมราคาของระบบปั๊ม 42,000 บาท
อ่างน้ำร้อน รุ่น D ที่มีระบบนวดจำนวน 57 จุด
- มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 32 จุด มีราคารวม 9,600 บาท
- มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 3.5 นิ้ว จำนวน 15 จุด มีราคารวม 12,000 บาท
- มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 5 นิ้ว จำนวน 10 จุด มีราคารวม 16,000 บาท
- ปั๊มน้ำ 3 แรงม้า 2 ตัว รวมราคา 70,000 บาท
รวมราคาของหัวนวดอยู่ที่ 37,600 บาท
รวมราคาของปั๊มน้ำ 70,000 บาท
มูลค่าการขายและต้นทุนต่างกัน
การเปรียบเทียบราคาระบบนวดของทั้งสองอ่าง พบว่าอ่างน้ำร้อน รุ่น D มีมูลค่าของระบบนวดที่มากกว่า อ่างน้ำร้อน รุ่น C ถึง 49,800 บาท ในด้านมูลค่าของการขายยังมีราคาที่สูงกว่า หากประเมินที่เข้าไปที่ต้นทุนในการผลิต อ่างน้ำร้อน รุ่น C เป็นอ่างที่มีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่า จึงสามารถที่จะนำเสนอราคาขายอ่างน้ำใ้ห้กับลูกค้าในราคาที่ถูกกว่า อ่างน้ำร้อน รุ่น D ได้
ซึ่งนอกจากปัจจัยเรื่องระบบนวดในอ่างน้ำร้อนที่ทำให้ อ่างน้ำร้อน รุ่น C เสนอขายในราคาที่ถูกกว่า ที่ 180,000 บาท ได้แล้ว ยังมีเรื่องของแผงวงจร ปุ่มกด ฮีตเตอร์ วัสดุอ่างน้ำ โครงสร้าง ส่วนประกอบรายละเอียดในการติดตั้งระบบท่อน้ำ ที่ทำให้อ่างน้ำร้อนมีราคาจำหน่ายที่ต่างกันอีก 110,000 บาท
การพิจารณาด้านคุณภาพของระบบนวด
หากพิจารณาประเภทของหัวนวดแล้ว พบว่าอ่างน้ำร้อน รุ่น C มีจำนวนหัวนวดแบบหัวเจ็ท 40 จุด ส่วนหัวนวดอีก 12 จุด เป็นหัวนวดแบบแรงดันอากาศ ในขณะเดียวกันอ่างน้ำร้อน รุ่น D มีหัวนวดเป็นแบบหัวเจ็ททั้งหมด 57 จุด หากพิจารณาด้านขนาดของหัวนวด จะพบว่าอ่างน้ำร้อน รุ่น D มีการเลือกใช้หัวนวดขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มากกว่า ดังนั้นอ่างน้ำร้อน รุ่น D ย่อมเป็นอ่างที่มีคุณภาพในด้านของระบบนวดที่สูงกว่า และจะสามารถสร้างผลลัพธ์ สร้างประโยชน์จากระบบนวดต่อร่างกายของลูกค้าได้มีประสิทธิภาพที่มากกว่าอ่างน้ำร้อน รุ่น C
การเปรียบเทียบจากตัวอย่างข้างต้น ไม่ใช่การโจมตีว่าอ่างน้ำร้อน ที่มีราคา 180,000 มีคุณภาพแย่ แต่แสดงให้เห็นว่าทำไมอ่างน้ำร้อนทั้ง 2 ถึงมีราคาแตกต่างกัน เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจและเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนให้เหมาะสมกับราคาของอ่างน้ำได้ด้วยตัวเอง
อีกหนึ่งตัวอย่างของการเปรียบเทียบของอ่างน้ำร้อน ที่มีการติดตั้งด้านจำนวนของหัวนวดที่ต่างกัน โดยอ่างน้ำร้อน รุ่น A มีจำนวนหัวนวดมากที่ 109 จุด และ อ่างน้ำร้อน B มีหัวนวดน้อยกว่าที่ 57 จุด
อ่างน้ำร้อน รุ่น A ที่มีระบบนวดจำนวน 109 จุด
มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 83 จุด มีราคารวม 24,900 บาท
มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 3.5 นิ้ว จำนวน 9 จุด มีราคารวม 7,200 บาท
มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 5 นิ้ว จำนวน 3 จุด มีราคารวม 4,800 บาท
มีหัวนวดลม จำนวน 14 จุด มีราคารวม 2,100 บาท
ปั๊มน้ำ 2 แรงม้า 1 ตัว ราคา 25,000 บาท
ปั๊มน้ำ 3 แรงม้า 1 ตัว ราคา 35,000 บาท
ปั๊มลม 700 วัตต์ ราคา 7,000 บาท
รวมราคาของหัวนวดอยู่ที่ 39,000 บาท
รวมราคาของปั๊ม 67,000 บาท
อ่างน้ำร้อน รุ่น B ที่มีระบบนวดจำนวน 57 จุด
มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 32 จุด มีราคารวม 9,600 บาท
มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 3.5 นิ้ว จำนวน 15 จุด มีราคารวม 12,000 บาท
มีหัวนวดเจ็ท ขนาด 5 นิ้ว จำนวน 10 จุด มีราคารวม 16,000 บาท
ปั๊มน้ำ 3 แรงม้า 2 ตัว รวมราคา 70,000 บาท
รวมราคาของหัวนวดอยู่ที่ 37,600 บาท
รวมราคาของปั๊มน้ำ 70,000 บาท
มูลค่าการขายและต้นทุนที่ต่างกัน
การเปรียบเทียบจากกรณีตัวอย่างของอ่างน้ำร้อน รุ่น A และ รุ่น B ข้างต้น โดยอ่างน้ำร้อนรุ่น B กลับมีมูลค่าของราคาขายระบบนวดสูงกว่า1,600 บาท ทั้งที่มีจำนวนหัวนวดน้อยกว่า เกือบเท่าตัว ซึ่งเมื่อประเมินต้นทุนในการผลิตของอ่างน้ำร้อน รุ่น A ที่มีจำนวนหัวนวดมากถึง 109 จุด จะไม่ได้มีต้นทุนสูงกว่าอ่างน้ำร้อน รุ่น B ที่มีจำนวนหัว 57 จุด เลย
หากมองในแง่ของเทคนิดการขาย โฆษณา และการตลาดของอ่างน้ำร้อนแล้ว อ่างน้ำร้อน รุ่น A จะดูน่าดึงดูด น่าสนใจมากกว่าแก่ลูกค้าส่วนใหญ่ เพราะมีหัวนวดจำนวนมาก สามารถสร้างความเข้าใจแบบพื้นฐานได้ง่าย ๆ โดยจะมีจุดขายเป็นอ่างน้ำร้อนที่มีหัวนวดมากกว่ารุ่น B ซึ่งจะสร้างความสับสนให้กับลูกค้าที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน และทำให้ลูกค้าทำการตัดสินใจซื้อที่ผิดพลาด
การพิจารณาด้านคุณภาพของระบบนวด
หากมองในแง่ของคุณภาพของระบบนวด ผลลัพธ์ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าแล้ว ระบบนวดของอ่างน้ำร้อน รุ่น A มีประสิทธิในการนวดที่ต่ำกว่า และ ยังไม่สามารถที่จะสร้างการนวดต่อกล้ามเนื้อส่วนลึกให้กับร่างกายของลูกค้าได้ดีเท่ากับอ่างน้ำร้อน รุ่น B เพราะหัวนวดส่วนใหญ่เป็นหัวนวดขนาดเล็กที่มีมากถึง 83 จุด ซึ่งเพียงแต่จะสร้างความรู้สึกของการนวดถึงแค่เพียงชั้นผิวหนังเท่านั้น ทั้งนี้จะมีระดับความแรงของหัวนวดแต่ละจุดที่เบากว่าอ่างน้ำร้อน รุ่น B อีกด้วย
การออกแบบวางระบบท่อน้ำของอ่างน้ำร้อนที่มีกำลังขับเคลื่อนมาจากปั๊ม จะใช้ท่อที่มีขนาดเท่ากันในการกระจายแรงดันน้ำไปยังหัวนวดแต่ละจุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะติดตั้งเป็นท่อน้ำขนาด 6 หุน หากคำนวณอัตราการส่งน้ำเฉลี่ยตามกำลังของปั๊มกลับพบว่า
อัตราการส่งน้ำต่อหัวนวดของอ่างน้ำร้อน รุ่น A อยู่ที่ 11 ลิตรต่อนาที ต่อ 1 หัวนวด
อัตราการส่งน้ำต่อหัวนวดของอ่างน้ำร้อน รุ่น B อยู่ที่ 21 ลิตรต่อนาที ต่อ 1 หัวนวด
จะได้เห็นว่าคุณภาพแรงดันน้ำหัวนวดแต่ละหัวของ อ่างน้ำร้อน รุ่น B มีมากกว่า อ่างน้ำร้อน รุ่น A เนื่องจากอ่างน้ำร้อน รุ่น A มีหัวนวดจำนวนมาก จึงทำให้สูญเสียแรงดันน้ำที่ส่งไปยังหัวนวดแต่ละหัว อีกทั้งยังใช้ปั๊มน้ำที่มีขนาดเล็กกว่า 1 แรงม้า แม้ว่าจะมีจำนวนปั๊มน้ำที่ติดตั้งภายในอ่าง 2 เท่าตัวกันก็ตาม แต่โดยรวมแล้วจะมีอัตราการส่งน้ำทั้งหมดที่ต่ำกว่าอ่างน้ำร้อน รุ่น B หากลูกค้าลงไปแช่น้ำในอ่างน้ำร้อน รุ่น A จะรู้สึกได้เลยว่า ระบบนวดมีการนวดที่อ่อนแรงกว่าอ่างน้ำร้อน รุ่น B
ตัวอย่างในการเปรียบเทียบระหว่างอ่างน้ำร้อนทั้งสอง ในอ่างรุ่นที่มีจำนวนหัวนวดมาก อ่างอีกรุ่นมีจำนวนหัวนวดเจ็ทที่น้อยกว่า เป็นเพียงใช้ปัจจัยด้านของขนาดหัวนวดและอัตราส่วนของปั๊มน้ำกับจำนวนหัวนวดมาพิจารณาเท่านั้น ยังไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องของการพิจารณาด้านคุณสมบัติของหัวนวด ประเภทของหัวนวดที่ทำการติดตั้งภายในอ่างน้ำร้อน และ ตำแหน่งการวางหัวนวด ซึ่งเมื่อลูกค้าใช้ปัจจัยที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นมาประกอบการพิจารณาก็จะทำให้ลูกค้า สามารถเห็นความแตกต่างระหว่างอ่างน้ำร้อนที่มีจุดขายด้านจำนวนหัวนวด กับ อ่างน้ำร้อนที่มีจุดขายด้านคุณภาพของระบบนวดได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โทร. 087-816-6383
เลือกซื้ออ่างน้ำร้อนได้แล้ววันที่ QandGTub.com

การลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถสร้างคุณประโยชน์ต่อด้านร่างกายได้หลากหลาย โดยการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟู การบำบัด การบรรเทาอาการเจ็บปวด และ ปัญหาด้านสุขภาพได้ตามศาสตร์ของธาราบำบัด การแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถส่งผลให้เกิดประโยชน์ด้านสุขภาพ ได้จาก 3 ปัจจัยหลัก ดังต่อไปนี้
- ระบบนวดเจ็ท ( Hydrotherapy Jets Massage )
- อุณหภูมิของน้ำอุ่น ( Warm Water ) อุณหภูมิความร้อน 35 - 40 องศาเซลเซียส
- คุณประโยชน์จากแรงพยุงตัวของน้ำ ( Buoyancy )


ในบทความนี้ทางคิวแอนด์จี จะมานำเสนอแง่มุมคุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อน เพื่อใช้สำหรับการแช่น้ำอุ่นบริเวณพื้นที่ภายนอกบ้าน ที่จะส่งผลให้ข้อดีต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ( Privacy ) เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิต การเพิ่มระดับคุณภาพชีวิต การให้คุณค่าของความสุขอันพิเศษเฉพาะตน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้าน อันเป็นสถานที่ให้ความรู้สึกสบายใจได้ทุก ๆ วัน
เพื่อความผ่อนคลาย แบบส่วนตัว
คุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อนภายนอกบ้าน คือ การสร้างพื้นที่ในการพักผ่อนแบบส่วนตัว โดยลูกค้าสามารถผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำที่บ้าน โดยไม่ต้องพบปะคลุกคลีกับบุคคลอื่นที่เราไม่ได้รู้จัก การผ่อนคลายในสถานที่ส่วนตัว เป็น ความสุข ด้วยการหลีกออกจากสังคมภายนอก ต่างไปจากการใช้บริการในสถานดูแลสุขภาพ เช่น ส่วนกลางสปาของโรงแรม รีสอร์ท บ่อน้ำอุ่นแบบรวม ศูนย์ธาราบำบัด บ่อน้ำแร่ออนเซ็น เป็นต้น