การเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน Outdoor แบบมีที่นอน และ อ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน

ในการพิจารณาเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน Outdoor อ่างแช่น้ำอุ่น หลังการอาบน้ำ เมื่อลูกค้าสามารถเลือกขนาดอ่างน้ำร้อน ที่เหมาะกับพื้นที่ที่ลูกค้าต้องการติดตั้งได้แล้ว ทางคิวแอนด์จีจะแนะนำให้ลูกค้าพิจารณาเลือกรุ่นอ่างน้ำร้อนที่ลูกค้าต้องการ โดยใช้ปัจจัยในด้านของการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายใน การพิจารณาเรื่องระบบนวด เรื่องระดับความลึกของน้ำในอ่าง จำนวนคนที่จะลงไปใช้ในอ่างน้ำร้อน หรือ สมาชิกภายในครอบครัวที่จะลงใช้งานอ่างพร้อมกัน โดยบทความนี้ทางคิวแอนด์จีจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นของการเลือกอ่างน้ำร้อนที่มีนอน และ อ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปใช้ประกอบการพิจารณาในการเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนต่อไปได้

ตำแหน่งที่นอน หรือ Lounge ในอ่างน้ำร้อน

  ตำแหน่งที่นอนของอ่างน้ำร้อน Outdoor มีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในให้มีส่วนโค้งสำหรับให้ลูกค้าเอนกายในขณะนอนแช่น้ำได้มากกว่าตำแหน่งที่นั่ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสำหรับอ่างน้ำร้อนที่มีตำแหน่งที่นั่งล้วนจะออกแบบให้สามารถทำการเอนหลังได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ตำแหน่งที่นอนภายในอ่างน้ำร้อนจะคล้ายกับโซฟาแบบยาว ที่ลูกค้าสามารถวางขาในแนวนอนได้จนสุดปลายเท้า แต่ตำแหน่งที่นอนภายในอ่างน้ำร้อนจะมีความสบายและมีข้อโดดเด่นมากกว่าโซฟาในห้องนั่งเล่น โซฟาในห้องรับแขก โดยมีคุณสมบัติจากแรงพยุงตัวของน้ำ เข้ามารับน้ำหนักตัวของลูกค้าแทนการทำงานของกระดูกข้อต่อ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเบาสบายไปทั่วร่างกาย หลังการแช่น้ำอุ่นในอ่างเสร็จเรียบร้อย

การนอนแช่น้ำจึงไม่เพียงได้รับประโยชน์ จากคุณสมบัติที่มาจากวัสดุพื้นผิวของตำแหน่งที่นอนเท่านั้น แต่เป็นการผสมผสานระหว่างการออกแบบรูปทรงพื้นที่ใช้สอยและคุณประโยชน์ที่ได้จากน้ำอุ่นตามศาสตร์ธาราบำบัด เพื่อสร้างความผ่อนคลาย ความสุขกาย ความสบายตัวไปพร้อมการทำงานของระบบนวดให้กับลูกค้า

ตำแหน่งที่นอนได้ออกแบบมาสำหรับรองรับส่วนล่างของร่างกายของลูกค้า คือ ตั้งแต่ขาท่อนบนลงไปถึงฝ่าเท้า ซึ่งการออกแบบตำแหน่งที่นอน เพื่อการใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด คือ การออกแบบให้ลูกค้า นอนแช่น้ำได้โดยไม่ลอยตัวไปแรงดันของระบบนวด

ตำแหน่งที่นอนที่มีการออกแบบคิดค้นพัฒนามาอย่างลงตัวนั้น จะสามารถล็อคตัวของลูกค้า ให้รับความสบาย ความผ่อนคลายจากระบบนวดได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ทำให้ลูกค้าลอยตัวไปกับน้ำ และ ความแรงของระบบนวด แต่หากลูกค้าพบกับตำแหน่งที่นอน ที่เมื่อเปิดใช้งานระบบนวดแล้ว ทำให้ลูกค้าลอยตัวไปความแรงของการนวด ก็จะทำให้ลูกค้าไม่สามารถที่จะได้รับประโยชน์จากการนวดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เรื่องระดับความลึกภายในตำแหน่งที่นอนที่ดีนั้น ตามคำแนะนำของทางคิวแอนด์จี หมายถึง เป็นตำแหน่งที่นอน ที่เหมาะสมกับสรีระร่างกายของลูกค้า หากตำแหน่งที่นอนภายในอ่างน้ำร้อน ออกแบบมาให้มีระดับน้ำที่ลึกมากเกินไป จะทำให้ลูกค้าชาวไทยที่ไม่ได้มีส่วนสูงเท่ากับลูกค้าชาวต่างชาติ ไม่สามารถนอนแช่น้ำได้ เนื่องจากมีระดับน้ำลึกเกินส่วนสูง ทำให้น้ำท่วมมาถึงปากและจมูกได้ แต่หากตำแหน่งที่นอน ออกแบบให้มีส่วนโค้งสำหรับวางขา สำหรับการวางเท้าที่สั้นเกินไป ก็จะทำให้คนที่มีลำตัวสูง ไม่สามารถที่จะนอนแช่น้ำภายในตำแหน่งที่นอนได้อย่างถนัด

  การออกแบบระดับความลึกในการแช่น้ำ ของตำแหน่งที่นอนในอ่างน้ำร้อน โดยส่วนใหญ่ในตำแหน่งที่นอน จะมีระดับความลึกในการแช่น้ำ 2 ระดับ คือ ระดับน้ำลึกท่วมถึงคอ และ ระดับน้ำลึกท่วมถึงบ่า ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากระดับความลึกของตำแหน่งที่นอน เพราะเป็นระดับความลึกที่ทำให้ลูกค้าสามารถแช่น้ำอุ่นได้ทั้งตัว ซึ่งจะส่งผลดีในด้านสุขภาพของระบบการทำงานภายในร่างกาย ให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้

การพิจารณาระบบนวดภายในตำแหน่งที่นอน

  หากลูกค้ามีความสนใจอ่างน้ำร้อนที่มีการออกแบบตำแหน่งที่นอนอยู่ภายใน การพิจารณาเรื่องตำแหน่งของจุดนวด คุณภาพของการนวด คุณสมบัติฟังก์ชั่นการปรับแต่ง่แรงดันของการนวด ควรเป็นปัจจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า อาทิเช่น

การพิจารณาเรื่องตำแหน่งจุดนวด การเลือกอ่างน้ำร้อน Outdoor ที่มีตำแหน่งที่นอนพร้อมติดตั้งระบบนวดเจ็ท หากลูกค้าต้องการเน้นการนวดที่ฝ่าเท้าในตำแหน่งที่นอน ลูกค้าก็ควรเลือกอ่างน้ำร้อนที่มีจุดนวดฝ่าเท้า 2 จุด สำหรับภายในตำแหน่งที่นอนนั้น หรือ หากลูกค้าต้องการเน้นการนวดที่กล้ามเนื้อน่องขา ลูกค้าก็ควรเลือกอ่างน้ำร้อน ที่มาพร้อมจุดนวดตามแนวน่องขา เป็นต้น

  อย่างไรก็ตามมีอ่างน้ำร้อนหลายรุ่นจากผู้ผลิตหลากหลายเจ้า ที่ทำการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในอ่าง ในโซนตำแหน่งที่นอน โดยไม่มีการติดตั้งตำแหน่งจุดนวดใต้ขาท่อนบน ใต้ข้อพับ ข้างขาท่อนบน น่องขา แต่มีการติดตั้งหัวนวดที่ฝ่าเท้าอย่างเดียวเท่านั้น การพิจารณาเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนที่มีนอนภายในอ่าง ลูกค้าก็สามารถที่จะเลือกให้มีจุดนวดเพื่อการผ่อนคลายส่วนล่างของร่างกาย หรือ ไม่มีจุดนวดเลยก็ได้ โดยใช้ที่นอนเพื่อสร้างความสบายในการแช่น้ำอุ่นเท่านั้นก็ได้

  คุณภาพของการนวด พิจารณาจากขนาดของหัวนวดที่ติดตั้งในตำแหน่ง ใต้ขาท่อนบน ใต้ข้อพับ น่องขา ฝ่าเท้า รวมไปถึงคุณภาพของจุดที่ติดตั้งอยู่บริเวณแผ่นหลังในตำแหน่งที่นอนด้วย โดยใช้หลักในการพิจารณาเรื่องหัวนวเจ็ทดังนี้ หัวนวดขนาดใหญ่ เป็นหัวนวดที่มีราคาสูง จำเป็นต้องใช้ปั๊มพ์ขนาดใหญ่เพื่อเป็นฐานกำลังของระบบนวด หากปั๊มพ์นวดที่ติดตั้งมาไม่เพียงพอต่ออัตราส่วนจำนวนหัวนวด และ ขนาดของหัวนวด จะทำให้แรงดันของหัวนวดเจ็ทต่อหัวเบาลง ซึ่งเป็นปัจจัยในข้อนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ที่เป็นตัวชี้วัดด้านราคาจำหน่ายของอ่างน้ำร้อน Outdoor การพิจารณาด้านของคุณภาพของระบบนวด

นอกจากการใชัปัจจัยด้านขนาดหัวนวดแล้ว ยังต้องใช้ปัจจัยในด้านกำลังของนวด และ จำนวนของหัวนวดมาพิจารณาร่วมด้วย สามารถติดตามอ่านรายละเอียดได้ที่บทความเรื่อง ข้อมูลระบบนวดในอ่างน้ำร้อนกลางแจ้ง Outdoor

การปรับแต่งแรงดันของการนวดภายในตำแหน่งที่นอน การพิจารณาเรื่องฟังก์ชั่นในการควบคุมระดับความแรงของการนวดของอ่างน้ำร้อน Outdoor ลูกค้าสามารถควบคุมได้จาก 3 ส่วน คือ

1. วาล์วอากาศ ที่ใช้สำหรับเพิ่มหรือลดระดับความแรงของการนวด ของหัวนวดทุกจุดพร้อมกันภายในตำแหน่งที่นอน
2. วาล์วปรับทิศทางน้ำ เป็นการปรับแต่งแรงดันด้วยการย้ายแรงดันของการนวดจากที่นั่งอื่น มายังที่นอน
3. การปรับควบคุมที่หัวนวดเฉพาะจุด ซึ่งเป็นฟังก์ชั่น ที่ติดตั้งมาเพื่อให้ลูกค้า ใช้ในการปรับแต่งจุดนวดได้ตามต้องการ อาทิ หากลูกค้าต้องการเน้นจุดนวดที่ใต้ขาท่อนบน ลูกค้าก็สามารถที่จะทำการปิดจุดส่วนอื่น ๆ ทั้งหมดได้ เป็นต้น

  ฟังก์ชั่นการปรับแต่งแรงดันของจุดนวด ในอ่างน้ำร้อน Outdoor ที่เน้นราคาขายที่คุ้มค่า ราคาไม่สูงมาก ก็จะไม่ได้การติดตั้งฟังก์ชั่นการปรับแต่งแรงดันของการนวดด้วย วาล์วปรับอากาศ วาล์วปรับทิศทางน้ำ และ การปรับแต่ง การเลือกเปิดปิดที่หัวนวดแต่ละจุดได้

ความแตกต่างของจุดนวดในตำแหน่งที่นอนและอ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน

  เมื่อเรามาดูที่ตำแหน่งจุดนวดของตำแหน่งที่นอน จะพบว่า ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะทำการติดตั้งหัวนวดที่ตำแหน่ง ใต้ขาท่อนบน ข้างขาท่อนบน ใต้ข้อพับ น่องขา ฝ่าเท้า ซึ่งตำแหน่งจุดนวดต่าง ๆ เหล่านี้ สำหรับอ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน จะไม่สามารถทำการติดตั้งเพื่อสร้างการนวดตามกล้ามเนื้อส่วนล่างของร่างกายได้

แต่จะมีอ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วนบางรุ่น ที่มีการติดตั้งหัวนวดสำหรับฝ่าเท้า และหัวนวดสำหรับใต้ขาท่อนบน โดยจะมีการออกแบบติดตั้งไว้ที่ส่วนกลางอ่างน้ำร้อน หรือ บริเวณก้นอ่าง ซึ่งจุดนวดสำหรับฝ่าเท้าของอ่างแบบที่นั่งล้วน จะมีการออกแแบบ เพื่อใช้งานสำหรับส่วนรวม โดยหมายถึง ทุกตำแหน่งที่นั่งสามารถทีจะใช้งานจุดนวดฝ่าเท้าที่กลางอ่างได้ และ มีการออกแบบจุดนวดฝ่าเท้า สำหรับใช้งานแบบส่วนตัวด้วย โดยจะมีการติดตั้งจุดนวด เพื่อใช้งานในเฉพาะตำแหน่งที่นั่งเดียวเท่านั้น

การออกแบบให้อ่างน้ำร้อน Outdoor มีตำแหน่งที่นอนภายในอ่าง จะเป็นการลดจำนวนของตำแหน่งที่นั่งภายในอ่างให้น้อยลง เนื่องจากการออกแบบตำแหน่งที่นอนจะกินพื้นที่ภายในอ่างมากกว่า อ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน เมื่อเปรียบเทียบอ่างน้ำร้อนที่มีความกว้าง ความยาว เท่ากัน ระหว่างอ่างน้ำร้อน ที่มีตำแหน่งที่นอน และ อ่างน้ำร้อน ที่มีแต่ที่นั่งล้วน จะพบว่า

อ่างน้ำร้อนที่มีที่นั่งล้วน จะมีจำนวนของที่นั่งมากกว่า อ่างน้ำร้อนที่มีตำแหน่งที่นอน อาทิ อ่างน้ำร้อนที่มีนั่งล้วนแบบ 7 ที่นั่ง และ อ่างน้ำร้อนแบบ 1 ที่นอน 4 ที่นั่ง ในขนาดอ่างที่มีพื้นที่ความกว้าง 2.3 เมตร ความยาว 2.3 เมตร เป็นต้น ซึ่งหากเราดูที่จำนวนของตำแหน่งที่นั่ง ลูกค้าส่วนใหญ่อาจจะมีความคิดเห็นว่า อ่างน้ำแบบ 7 ที่นั่ง คุ้มกว่า อ่างน้ำร้อนแบบ 1 ที่นอน 4 ที่นอน เพราะเห็นว่า รองรับได้ถึง 7 คน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว อ่างน้ำร้อน 7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นแบบที่นั่งล้วนนั้น อาจจะไม่ได้ผลิตออกมาเพื่อรองรับการใช้งาน 7 คนพร้อมกัน แต่หมายถึง ลูกค้าจะลงไปใช้ได้สบายโดยไม่รู้สึกเบียดเสียด 4 - 5 คน พร้อมกันเท่านั้น แต่หากลูกค้าลงไปใช้พร้อมกัน 7 คน จะทำให้รู้สึกเบียดเสียดในบริเวณกลางอ่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ในการวางขา นอกจากนี้หากมีการลงไปใช้งานพร้อมกัน 7 คน จะทำให้น้ำล้นออกจากอ่างได้อีกด้วย โดยเฉพาะอ่างน้ำร้อนที่มระบบหมุนเวียนน้ำแบบสกิมเมอร์

อย่างไรก็ตาม อ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน 7 ที่นั่ง สำหรับบางรุ่น บางโรงงานผู้ผลิต ได้ทำการออกแบบให้มีระบบหมุนเวียนน้ำเป็นระบบน้ำล้น ซึ่งสามารถที่จะรองรับการใช้งานพร้อมกัน 7 คน ได้โดยที่น้ำไม่ล้นออกจากอ่าง เพราะมีแท็งค์เก็บน้ำสำรองเพิ่มเติม นอกเหนือจากปริมาณน้ำภายในอ่าง

การออกแบบหลายตำแหน่งที่นั่ง ให้อ่างน้ำร้อนมีแต่ที่นั่งล้วนนั้น จะทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์จากระบบนวดที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าสามารถสลับเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่งไปได้ เพื่อรับประสบการณ์ของรูปแบบการที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละที่นั่ง นอกจากนี้อ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน จะได้ประโยชน์ในด้านของการชมวิวขณะแช่น้ำในอ่าง เนื่องจากลูกค้าจะได้จำนวนของตำแหน่งที่นั่งเพิ่มขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถสลับเปลี่ยนที่นั่งเพื่อรับชิวรอบอ่างได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

อ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน

  เป็นอ่างน้ำร้อนที่ได้มีการออกแบบตำแหน่งที่นั่งหลายที่นั่ง โดยไม่มีที่นอน ซึ่งในแต่ละที่นั่งจะมีการออกแบบระดับความลึกในการแช่น้ำที่ต่างกัน มีการติดตั้งรูปแบบหัวนวด ตำแหน่งจุดนวด และ ขนาดหัวนวดที่ไม่เหมือนกัน เพื่อให้สามารถรองรับสมาชิกภายในครอบครัวได้ทุกเพศ ทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่มีช่วงลำตัวเล็ก เด็ก ผู้สูงวัย และ ลูกค้าผู้ชายมีช่วงลำตัวสูง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถที่จะแช่น้ำร่วมกับบุคคลอื่นพร้อมกันได้ แม้ว่าจะมีส่วนสูงที่ต่างกัน

ข้อดีของอ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน คือ ทำให้เกิดพื้นที่ของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกภายในครอบครัว ด้วยการออกแบบที่นั่งล้วนนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วอ่างน้ำร้อนจะถูกผลิตมาให้แต่ละที่นั่ง หันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้ลูกค้าและครอบครัว รวมถึงกลุ่มเพื่อนได้ พูดคุย สอบถาม ถึงความเป็นอยู่ และ ได้รับความสุขจากการอยู่พร้อมหน้ากันในอ่างน้ำร้อน

หากเปรียบเทียบในด้านประโยชน์สุขภาพ ระหว่างอ่างน้ำร้อนที่มีตำแหน่งที่นอน และ อ่างน้ำร้อนแบบที่นั่งล้วน ทางคิวแอนด์จีให้ความเห็นว่า อ่างน้ำร้อนทั้ง 2 แบบ ไม่มีความแตกต่างกันในด้านของคุณประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ อาทิ การช่วยให้นอนหลับง่าย การผ่อนคลายความตึงเครียด การลดอาการเจ็บปวดของกระดูกข้อต่อ การปรับสมดุล การกระตุ้นอัตราการหมุนเวียนของเลือดภายในร่างกาย เป็นต้น เพราะการออกแบบระดับความลึกในการแช่น้ำของอ่างน้ำร้อนที่มีแต่ที่นั่งล้วน จะมีระดับความลึกที่เหมือนกับอ่างน้ำร้อนที่มีที่นอนด้วย

ภายในอ่างน้ำร้อนที่มีที่นั่งล้วน ผู้ผลิตจะนิยมทำการออกแบบที่นั่ง Cool Down โดยเป็นตำแหน่งที่นั่งที่มีระดับความลึกประมาณท่วมถึงกลางหน้าท้อง ซึ่งทางผู้ผลิตทำการออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าใช้สำหรับการนั่งผ่อนคลาย ให้ร่างกายคลายความร้อน ให้ร่างกายเย็นลง หลังการแช่น้ำอุ่นในระดับที่ลึกกว่ามาแล้ว เนื่องจากอ่างน้ำร้อนที่มีที่นั่งล้วน มีพื้นที่ใช้สอยภายในมากกว่า อ่างน้ำร้อนที่มีที่นอน ซึ่งหากลูกค้าทำการเปรียบเทียบกับอ่างน้ำร้อนที่มีนอนหลาย ๆ รุ่น จะพบว่า จะไม่มีการออกแบบที่นั่ง Cool Down

นอกจากการพิจารณา ระหว่างอ่างน้ำร้อนที่มีนั่งล้วนกับอ่างน้ำร้อนที่มีที่นอนแล้ว ในการเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน Outdoor สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายท่าน ควรเลือกอ่างที่มีขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำมาก เพื่อให้อ่างน้ำร้อนสามารถรองรับการใช้งานของสมาชิกภายในครอบครัวได้หลายคน น้ำในอ่างที่มีปริมาณมากตามขนาดอ่างที่ใหญ่ขึ้น จะเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้น้ำมีความสะอาดมากกว่า การเลือกใช้อ่างขนาดเล็ก เนื่องจากปริมาณน้ำที่มากกว่าจำนวนผู้ใช้งาน จะทำให้สามารถรองรับคนลงอ่างได้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันไม่ทำให้น้ำมีความสกปรกตามจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น

การเลือกอ่างน้ำร้อนขนาดใหญ่ นอกจากยังสามารถลดความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำ เนื่องมีจากปริมาณน้ำมากได้แล้ว ยังส่งผลต่อค่าปริมาณมวลรวมของแข็ง หรือ TDS ให้มีการเพิ่มในระดับที่ต่ำลงด้วย แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ใช้งานในอ่างเพิ่มขึ้นก็ตาม หรือ หากจะกล่าวให้เข้าใจง่ายขึ้นสำหรับ
ข้อดีของอ่างขนาดใหญ่ คือ มีน้ำเยอะ ลงได้หลายคน ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย

สัดส่วนของปริมาณน้ำในอ่างที่เหมาะกับจำนวนผู้ใช้งาน คือ ผู้ใช้งาน 1 คน ต่อ ปริมาณน้ำ 250 ลิตร ซึ่งการเลือกขนาดอ่างที่มีปริมาณน้ำให้เหมาะกับจำนวนผู้ใช้งาน สามารถที่จะลดความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำ ทำให้น้ำกลับมาใสสะอาดได้เร็วหลังจากที่ลูกค้าลงไปใช้งานเสร็จได้ เช่น อ่างน้ำร้อน 1,450 ลิตร หากมีการลงไปใช้งาน 5 คน พร้อมกัน จะทำให้มีปริมาณน้ำ 290 ลิตร ต่อ ผู้ใช้งาน 1 คน ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ไม่เกินมาตรฐาน เป็นต้น

จากตัวอย่างข้างต้น เมื่อมีการใช้งานอ่างน้ำร้อนเสร็จ น้ำในอ่างจะไม่สกปรกมาก สามารถที่จะทำการบำบัดให้ใช้น้ำเดิมต่อไปได้ ซึ่งจะมีรอบระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำที่แนะนำ คือ ควรทำการเปลี่ยนน้ำทุก 2 เดือน กรณีที่มีการลงไปใช้งานเป็นประจำ วันละ 2 คน แต่เมื่อทำการเปรียบเทียบระหว่างอ่างที่มีการใช้งาน โดยมีอัตราส่วนของปริมาณน้ำต่อผู้ใช้งานที่น้อยกว่า เช่น ผู้ใช้งานหนึ่งคน ต่อ ปริมาณน้ำ 100 ลิตร เป็นต้น การใช้งานอ่างน้ำร้อนตามอัตราส่วนเท่านี้ จะทำให้ต้องใช้เวลาในการบำบัดน้ำนานกว่า และ ทำให้ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยกว่าตัวอย่างแรก โดยจะต้องทำการเปลี่ยนน้ำทุก ๆ 15 วัน เป็นต้น

อ่างน้ำร้อน Outdoor 
จัดจำหน่ายโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิวแอนด์จี Q&G Limited Partnership
QandGTub.com