9 ข้อ วิธีเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน Outdoor ให้คุ้มค่าและใช้ได้นาน
- โดย Q&G
- •
- 26 ก.พ., 2564
- •

การเลือกอ่างน้ำร้อนที่ดี มีคุณภาพ และ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ต้องดูที่อะไรบ้าง
ในวันนี้โลกของการแข่งขันได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต สมัยก่อนหากซื้อสินค้าจำเป็นต้องเลือกแหล่งผลิตของสินค้า หรือ สอบถามว่าสินค้านั้น ผลิตจากประเทศอะไร แล้วใช้ฐานการผลิตเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้า แต่ในวันนี้ด้วยการแข่งขันของธุรกิจและการแลกเปลี่ยนทางการค้าที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้จำเป็นต้องพิจารณาและเปรียบเทียบข้อมูลเชิงลึกของสินค้าประเภทนั้น ไม่ใช่แค่การดูเรื่องของฐานการผลิตและราคาสินค้าเท่านั้น
บริษัทกลุ่มธุรกิจการค้าไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่หรือบริษัทเล็กก็ต่างขับเคลื่อนทำงานโดยมนุษย์ ซึ่งจะสะท้อนความคิด นิสัยใจคอ ของเจ้าของธุรกิจและกลุ่มคนทีมงานออกมายังสินค้าว่า มีความจริงใจในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพให้แก้ลูกค้า หรือ มีเป้าหมายในการทำสินค้าราคาต่ำเน้นยอดขายโดยมุ่งหวังเอาแต่ผลกำไรเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคนประเทศอะไร ในทวีปใดก็ตามต่างมีคนที่นิสัยไม่ดี และ มีคนที่จริงใจต่อลูกค้า ทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นผู้นำของโลก รวมไปถึงประเทศที่อยู่ในอันดับรองลงมาก็ตาม อ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor ที่ผลิตออกมาด้วยคุณภาพต่ำในประเทศที่พัฒนาแล้วก็ยังมีให้พบเห็นอยู่ในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันอ่างน้ำร้อนที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดก็มีการนำเสนอออกสู่ตลาดโดยประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นเดียวกัน
ในบทความนี้จะมาแนะนำให้ข้อมูลประเด็นสำคัญในการเลือกอ่างน้ำร้อน Outdoor เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ที่กำลังสนใจนำเกณฑ์ดังต่อไปนี้ไปเปรียบเทียบในการเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนภายนอกบ้าน
1. พื้นผิวอะคริลิค
เนื้ออ่างชั้นที่ 1 เป็นวัสดุพื้นผิวที่ลูกค้าจะได้เห็นลวดลายความสวยงามของอ่างน้ำร้อน เป็นวัสดุที่ลูกค้าจะได้จับสัมผัสใช้งาน ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความเรียบเสมอกัน ผลิตมาด้วยวัสดุที่เป็นชิ้นเดียวกัน ไม่ได้มีการต่อเชื่อมประกอบ วัสดุอะคริลิคของอ่างน้ำร้อนเป็นส่วนแรกของอ่างน้ำที่ใช้ในการเริ่มต้นการผลิตภายในโรงงาน ในอุตสาหกรรมการผลิตอ่างน้ำร้อนของโลก จะเลือกใช้อะคริลิคจากอเมริกาอยู่ 2 ยี่ห้อ คือ Aristech และ Lucite ซึ่งเป็น 2 ผู้ผลิตที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่แข่งขันกันในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตอ่างน้ำร้อนทางทวีปอเมริกา ยุโรป ออสเตเลีย ก็ต่างเลือกใช้อะคริลิค 2 ยี่ห้อนี้ ซึ่งเป็นวัสดุที่ผลิตออกมาเพื่อการใช้งานสำหรับอ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor โดยตรง มีคุณสมบัติที่จะป้องกันสภาพอากาศแวดล้อมภายนอกได้เป็นอย่างดี
ในปัจจบุบันจะมีทางเลือกของการใช้วัสดุอะคริลิคที่นอกเหนือจาก ยี่ห้อ Aristech และ Lutice จากบางผู้ผลิต ซึ่งทางคิวแอนด์จียังคงแนะนำว่า หากจะเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพของวัสดุพื้นผิวอ่างน้ำร้อนที่ใช้สำหรับกลางแจ้ง Outdoor ให้เลือกอ่างน้ำร้อนที่ใช้อะคริลิคจาก 2 ยี่ห้อนี้ เพราะไม่ต้องรับความเสี่ยงต่อคุณภาพของวัสดุที่อาจเกิดการบวม การพองตัว การแตกแยก เมื่อใช้งานอ่างไปในระยะ 3 - 5 ปี ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
2. เนื้อไฟเบอร์กลาส
เนื้อไฟเบอร์กลาสเป็นโครงสร้างเนื้ออ่างน้ำร้อนชั้นที่ 2 เป็นวัสดุของอ่างน้ำที่ทำหน้าในการสร้างความแข็งแรงให้กับอ่างที่จะทำให้อ่างไม่แตก รั่ว ซึม เป็นวัสดุที่ติดตั้งต่อจากอะคริลิค หรือด้านหลังของเนื้ออะคริลิค โดยวัสดุในชั้นนี้เป็นส่วนที่เรียกว่า Shell Structure หรือ งานวัสดุไฟเบอร์กลาสนั่นเอง
เมื่อกล่าวถึงไฟเบอร์กลาส ลูกค้าจะทราบได้อย่างไรว่า อ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor ที่เป็นอะคริลิคเสริมความแข็งด้วยไฟเบอร์กลาสนั้นเป็นอ่างที่มีคุณภาพ จากผู้ผลิตที่มีความใส่ใจ ลงทุนในการผลิต และลูกค้าจะได้ใช้งานอ่างน้ำร้อนที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
อ่างน้ำร้อนที่มีการเสริมเนื้ออ่างด้วยไฟเบอร์กลาสที่ดีจะต้องมีความหนาที่เพียงพอเพื่อการรับน้ำหนักของปริมาณน้ำภายในอ่าง และ น้ำหนักของลูกค้า หรือ ผู้ใช้งานโดยความหนาเฉลี่ยที่มีการจำหน่ายในอุตสาหกรรมการผลิตอ่างน้ำร้อน จะมีความตั้งแต่ 7 มิลลิเมตรขึ้นไป ความหนาของงานไฟเบอร์กลาสที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลต่ออายุการใช้งานของโครงสร้างเนื้ออ่างน้ำร้อน แต่อย่างไรก็ตามควรพิจารณาเปรียบเทียบถึงเรื่องวัสดุส่วนประกอบของงานไฟเบอร์กลาสแต่ละชั้นด้วย
วิธีการผลิตที่จะทำให้เนื้ออ่างที่เป็นไฟเบอร์กลาสให้มีความหนาที่เพียงพอจนสามารถรับน้ำหนักได้ด้วยตนเอง จำเป็นต้องใช้ฝีมือและเวลาในการผลิตที่ยาวนาน เพื่อที่จะลงเรซิ่น และ ไฟเบอร์กลาส หลาย ๆ ชั้น เป็นการใช้ความอดทนในการทำงานด้วยฝืมือแรงงานของคน ปัจจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่จะบ่งบอกถึงคุณภาพงานของผู้ผลิต ความใส่ใจในคุณภาพของเนื้ออ่าง เพื่อให้อ่างน้ำมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ระยะเวลาการผลิตอ่างน้ำร้อนที่รวดเร็วเกินไปนั้น อาจจะส่งผลเสียต่อคุณภาพของเนื้องานไฟเบอร์กลาส
3. ความละเอียดการติดตั้งระบบท่อน้ำในอ่าง
ส่วนประกอบที่ติดตั้งภายในอ่างน้ำร้อน outdoor ของทางผู้ผลิต เป็นสิ่งที่แสดงถึงคุณภาพความใส่ใจ ความจริงใจในการผลิตอ่างน้ำร้อนโดยลูกค้าจะสามารถดูได้จาก การติดตั้งระบบท่อน้ำ ที่เป็นท่ออ่อน flexible pipe ขนาด 6 หุน สำหรับการจ่ายน้ำของหัวนวดเจ็ท เพราะเนื่องจากการเปิดใช้งานระบบนวด จะมีแรงสั่น การกระชากตัวของแรงดันน้ำที่ส่งมาจากปั๊ม การเลือกใช้ท่ออ่อนที่มีคุณสมบัติให้ตัวในการรับแรงสั่นสะเทือน เป็นการเลือกใช้ประเภทของท่อน้ำที่ตรงต่อการใช้งานได้ลงตัวกว่าการใช้ท่อน้ำแบบแข็ง
อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่เหนียว ยืดหยุ่นสูง สามารถที่จะทนต่อแรงบีบได้โดยที่ไม่แตกร้าว ซึ่งคุณสมบัติของความเหนียวนี้ออกแบบมาเพื่อให้ทนต่อสภาพอากาศภายนอก ที่มีการเปลี่ยนแปลงของความร้อนและเย็น ซึ่งจะทำให้ระบบท่อน้ำมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ได้มากกว่าระบบท่อแบบแข็งที่จะกรอบแตก หากมีการเปลี่ยนของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นในการใช้งานแบบ Outdoor
จุดสังเกตุการต่อท่ออ่อนเข้ากับระบบนวดในแต่ละสายท่อน้ำนั้น จะมีต่อด้วยการทากาวและรัดด้วยแคลมป์ หรือ เข็มขัดรัดท่อ ซึ่งเป็นวิธีการต่อท่ออ่อนของระบบนวดเจ็ทในอ่างน้ำร้อน Outdoor ที่จะสามารถยืดอายุการใช้งาน ป้องการรั่วซึมที่ระบบท่อได้มากกว่าการประกอบด้วยทากาวเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังสามารถที่จะซ่อมแซมแก้ไขได้โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนระบบท่อทั้งหมด
หากเลือกใช้วิธีการต่อท่อสวมกาวเพียงอย่างเดียวกับเข้าแกนกระจายท่อน้ำ ( Manifold Pipe ) รูปแบบสวมกาวภายใน กรณีที่มีการรั่วซึมหนึ่งจุดจำเป็นต้องเปลี่ยนระบบท่อของระบบนวดใหม่ทั้งหมด เพราะจะต้องเปลี่ยนแกนกระจายท่อน้ำ แกนกระจายท่อน้ำหนึ่งกระบอกอาจมีการจ่ายน้ำของระบบนวดถึง 10 - 20 จุด หรือ มากกว่า ขึ้นอยู่กับการออกแบบในการวางระบบท่อน้ำให้กับระบบนวดของอ่างน้ำร้อนรุ่นนั้น ๆ
การออกแบบระบบท่อ
ระบบนวดของอ่างน้ำร้อน Outdoor มีการติดตั้งระบบท่อจำนวนมาก การวางรูปแบบการติดตั้งท่อน้ำ จึงมีความสำคัญที่จะทำให้ท่อน้ำมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สิ่งแรกที่จะให้ลูกค้าสังเกตุเวลาที่เปิดระบบนวดของอ่างน้ำ ให้ดูที่แกนกระจายท่อน้ำว่ามีการติดตั้งแกนกระจายท่อน้ำราบขนานกับพื้นอ่างพร้อมยึดแกนกระจายท่อน้ำ หรือ มีการติดตั้งแบบลอยติดกับเนื้ออ่างพร้อมมีการยึดแกนกระจายท่อน้ำที่แน่หนาหรือไม่ เพราะหากพบเห็นว่าเวลาที่มีการเปิดใช้งานระบบนวดแล้วมีการสั่นตัว การขยับตัวของแกนกระจายท่อน้ำ แสดงถึงความไม่ใส่ใจในการออกแบบและติดตั้งระบบท่อน้ำ
เนื่องจากหากปล่อยให้มีการสั่นตัวของแกนกระจายท่อน้ำ ระบบท่อของระบบนวดก็จะมีโอกาสรั่วซึมได้ทั้งหมด เพราะเมื่อแกนกระจายท่อน้ำสั่นตัว ก็จะทำให้ระบบท่ออ่อนทั้งหมดของระบบนวดเคลื่อนตัวไปด้วย เมื่อระยะเวลาผ่านไปหลายปีก็จะทำให้จุดต่อท่อน้ำหลุดออกจากกันได้ นอกจากนี้การติดตั้งระบบท่อน้ำจะต้องมีความเหมาะสมในการเลือกใช้ความยาวของท่อน้ำ และมีการต่อท่อน้ำที่ไม่ตึงและหย่อนเกินไป หากระบบท่อน้ำมีการติดตั้งที่ตึงเกินไปก็จะทำให้เกิดการรั่วซึมของข้อต่อในระยะยาวได้ และกรณีที่มีการวางระบบท่อน้ำที่หย่อนเกินไป ก็จะทำให้เกิดการสั่นและเคลื่อนตัวของข้อต่อได้เช่นเดียว
การยึดฐานปั๊มน้ำ
เป็นอีกหนึ่งงานที่จะทำให้ระบบท่อน้ำและปั๊มน้ำสามารถที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพราะการติดตั้งฐานยึดปั๊มน้ำที่แข็งแรง แน่หนา จะช่วยป้องกันการเคลื่อนตัว การขยับตัวของระบบท่อน้ำ ข้อต่อระหว่างท่อน้ำ และ ตัวปั๊มน้ำเอง ในการเริ่มต้นทำงานของปั๊มน้ำ จะมีแรงกระชากตัวเมื่อลูกค้าสั่งเปิดระบบนวด ทุกครั้งที่มีการเปิดใช้งานแรงกระชากจะส่งผลต่อระบบท่อหน้าปั๊ม ทั้งฝั่งของการดูดและในส่วนของการจ่ายน้ำ รวมไปถึงขณะที่ปั๊มกำลังทำงานจ่ายน้ำไปยังระบบนวด จะมีการสั่นตัวของปั๊มน้ำไปยังระบบท่อ หากมีการยึดฐานที่ไม่แน่หนาถาวร ก็จะทำให้ยูเนี่ยน ข้อต่อ และระบบท่อ มีการแตก หลุด ส่งผลต่อปัญหารั่วซึมตามมาอีกด้วย ประโยชน์ของการทำฐานยึดปั๊มให้ได้คุณภาพ ยังสามารถที่จะลดเสียงรบกวนขณะเปิดใช้งานระบบนวดของอ่างน้ำร้อนได้อีกด้วย
4. คุณภาพของระบบนวดเจ็ท
เมื่อลูกค้ากำลังเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนแบบ outdoor สิ่งแรกที่ลูกค้าอาจคิดถึงในเรื่องระบบนวด คือ จำนวนของหัวนวดว่าอ่างรุ่นนี้มีหัวนวดกี่หัว หรือ อาจได้รับคำแนะนำจากผู้จัดจำหน่ายอ่างน้ำว่ามีจำนวนหัวนวดจำนวนมาก เช่น อ่างรุ่น A มีจำนวนหัวนวด 51 จุด และ อ่างรุ่น B มี หัวนวด 45 จุด ลูกค้าอาจจะคิดว่า อ่างน้ำร้อน รุ่น A เป็นอ่างที่มีระบบนวดจำนวนมากกว่า ย่อมให้ระบบนวดที่ดีกว่า อ่างน้ำรุ่น B และในขณะเดียวกันอ่างน้ำ รุ่น A มีราคาขายที่ต่ำกว่า ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจว่า อ่างรุ่น A เป็นรุ่นที่ลูกค้าจะซื้อ
แต่เมื่อมาดูรายละเอียดของระบบนวดนั้น จะพบว่าระบบนวดของอ่างน้ำร้อน รุ่น A ที่มีจำนวน 51 จุด มีระบบนวดแรงดันอากาศ 26 จุด และ มีระบบนวดแบบหัวเจ็ทเพียง 25 จุด โดยมีจำนวน ปั๊มน้ำขนาด 3 แรงม้า 1 ตัว และ ปั๊มลม 800 วัตต์ 1 ตัว ซึ่งในคำโฆษณาของเอกสารโบรชัวร์แนะนำสินค้า อาจมีการเขียนข้อความในการขายว่า เป็นอ่างที่มีปั๊มจำนวน 2 ตัว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเป็นปั๊มอะไร และ ระบบนวดประเภทไหนบ้าง
การเปรียบเทียบคุณภาพของระบบนวดภายในอ่างน้ำร้อน Outdoor อย่างแรก คือ การดูที่ประเภทของหัวนวด ว่าเป็น
หัวนวดแบบเจ็ท ( Jets Nozzles Massage ) หรือ เป็นระบบนวดแบบแรงดันอากาศ ( Air Nozzles Massage )
ระบบนวดแบบหัวเจ็ท เป็นการสร้างนวดด้วยการทำงานของ ปั๊มน้ำ และดึงอากาศเข้าไปในระบบจากแรงดันของน้ำ เพื่อสร้างการนวดที่ทรงพลัง หัวนวดแบบเจ็ทได้ถูกคิดค้นจากบริษัทผู้ผลิตในอเมริกาโดย Jacuzzi (จากุซซี่) ซึ่งที่กลายเป็นคำที่เรียกกันติดปากจนกลายเป็นคำทั่วไป ซึ่งในประเทศไทยก็เป็นการเรียกชื่อแบบเหมารวมว่าระบบนวดจากุซซี่ ซึ่งอาจหมายรวมถึงระบบนวดเจ็ท และ ระบบนวดแรงดันอากาศด้วย
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าต้องพิจารณาในการตัดสินใจเลือกอ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor แต่ละรุ่น เพื่อให้ตรงต่อความต้องการลูกค้าในการใช้ระบบนวด หากลูกค้ามีปัญหาเรื่องอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณเอว ก็ควรเลือกอ่างรุ่นที่มีการออกแบบติดตั้งระบบนวดที่เอว หรือ หากลูกค้ามีการปวดกล้ามเนื้อที่น่องขา และ ฝ่าเท้า ก็ควรเลือกอ่างรุ่นที่มีที่นอน และ มีการออกแบบติดตั้งระบบนวดที่น่องและฝ่าเท้า
อย่างไรก็ตามให้สังเกตุประเภทของระบบนวดด้วยว่า ตำแหน่งจุดนวดที่ลูกค้าต้องการนั้น เป็นระบบนวดแบบหัวเจ็ท หรือ ระบบแรงดันอากาศ เพราะจากประสบการณ์ของทางคิวแอนด์จีพบว่า จะมีอ่างน้ำร้อนที่มีการวางระบบแรงดันอากาศไว้ที่น่องขา และ บริเวณกลางอ่างน้ำ ที่เป็นจุดวางเท้า
หากลูกค้ายืนดูอยู่นอกอ่าง เวลาที่มีการเปิดระบบนวดแรงดันอากาศ จะรู้สึกว่าระบบนวดในอ่างรุ่นนี้มีความแรงในการนวด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ระบบแรงดันอากาศจะให้การนวดต่อกล้ามเนื้อที่น้อยมาก เพียงแต่สร้างเสียงน้ำที่ดัง และสร้างการเคลื่อนไหวของน้ำในอ่างเท่านั้น เป็นระบบนวดที่ออกแบบมาเพื่อการนวดแบบเบา ๆ ไปพร้อมการแช่น้ำอุ่น และ เพื่อใช้ในขณะที่ลูกค้าต้องการนั่งพักแบบ Cool Down ระบบนวดแรงดันอากาศจะไม่ได้มีผลต่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ดีเท่ากับระบบนวดแบบหัวเจ็ท
ในประเด็นนี้หมายถึงขนาดของระบบหัวนวดเจ็ท หัวนวดเจ็ทจะมีหัวนวดโดยหลักแล้ว 3 ขนาด คือ
- หัวนวดขนาดใหญ่ 5 นิ้ว , 4 นิ้ว
- หัวนวดขนาดกลาง 3.5 นิ้ว , 3 นิ้ว
- หัวนวดขนาดเล็ก 2.25 นิ้ว , 2 นิ้ว
หัวนวดเจ็ทขนาดใหญ่จะให้แรงกดของการนวดที่น้อยกว่าหัวนวดขนาดเล็ก แต่จะสร้างมวลน้ำที่ส่งมานวดต่อกล้ามเนื้อในพื้นที่ใหญ่กว่า ส่งผลต่อการนวดต่อชั้นกล้ามเนื้อได้ลึกมากกว่า และจะให้การนวดที่นิ่มนวลกว่าหัวนวดขนาดเล็ก ส่วนหัวนวดขนาดเล็กจะสร้างการนวดต่อกล้ามเนื้อในพื้นที่น้อยกว่า ซึ่งจะคล้ายกับการนวดแบบกดจุด หรือ หากจะพูดให้เห็นภาพ คือ หัวนวดขนาดใหญ่เหมือนกับการใช้ฝ่ามือนวด แต่หัวนวดขนาดเล็กเหมือนกับการใช้นิ้วกดนั่นเอง
สำหรับอ่างน้ำร้อน Outdoor ที่มีการติดตั้งหัวนวดขนาดใหญ่เป็นหลัก จะมีราคาจำหน่ายที่สูงกว่า อ่างน้ำร้อนที่มีการติดตั้งหัวนวดขนาดเล็ก เช่น อ่างน้ำร้อน รุ่น A มีหัวนวดขนาดเล็ก 35 จุด มีหัวขนาดกลาง 15 จุด กับ อ่างน้ำร้อน รุ่น B ที่มีการติดตั้งหัวนวดขนาดใหญ่ 30 จุด อ่างน้ำร้อน รุ่น B จะมีราคาจำหน่ายที่สูงกว่าตามคุณภาพของหัวนวดที่ใหญ่ขึ้น เพราะจำเป็นต้องใช้ปั๊มน้ำขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย
สิ่งที่พบ คือ มีการติดตั้งเบ้าไม่ตรงกับขนาดของหัวนวดเจ็ททางด้านหน้า โดยมีการใช้เบ้าขนาดเล็กและติดตั้งหัวนวดด้านหน้าขนาดกลาง ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานระบบนวดแล้วหัวขนาดกลางที่ติดตั้งหลอกลูกค้าแบบนี้จะไม่ได้สร้างการนวดที่แตกต่างกับหัวนวดขนาดเล็กเลย เพราะมีการใช้เบ้าที่เป็นตัวกระจายแรงของน้ำเท่ากัน
การเปรียบเทียบอ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor ในส่วนของระบบนวดนั้น ควรเปรียบเทียบประเภทของหัวนวด ขนาดของหัวนวด ตำแหน่งการติดตั้งของหัวนวด ขนาดของปั๊มน้ำ และ จำนวนของหัวนวด ไม่ควรใช้ราคาเป็นปัจจัยเดียวกันในพิจารณาระบบนวดภายในอ่างน้ำ
วาล์วปรับทิศทางน้ำออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ปรับย้ายกำลังของระบบนวดจากที่นั่งหนึ่งไปยังอีกที่นั่งหนึ่ง เพื่อเพิ่มกำลังของการนวดในตำแหน่งที่หรือที่นอนที่ลูกค้าต้องการ และเพื่อใช้ในการเปิดระบบนวดให้มีกำลังการนวดที่สมดุลกันทั่วทั้งอ่าง
สำหรับวาล์วปรับอากาศเป็นวาล์วที่เปิดช่องลม เพื่อให้ปั๊มน้ำดูดอากาศเข้าไปยังหัวนวด โดยจะส่งผลให้ระบบนวดหัวเจ็ทนั้นแรงขึ้นหรือเบาลงได้
คุณภาพของวาล์วปรับอากาศ และ วาล์วปรับทิศทางน้ำ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่แสดงถึงคุณภาพของอ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor วาล์วที่ดีควรเป็นวาล์วที่ปรับง่าย ไม่ติดขัด ไม่มีลูกบิดสำหรับการปรับหมุนที่เล็กและบางจนเกินไป เพราะหากลูกบิดเล็ก บางไม่แข็งแรงก็จะแตกหักเมื่อผ่านการใช้งานได้ ทั้งนี้ลูกค้าจำเป็นต้องดูแกนภายในวาล์วทั้งสองตัวด้วยว่า เป็นแกนวาล์วที่มีความหนาแข็งแรงหรือไม่ เพราะหากพบแกนวาล์วที่มีพลาสติกแบบบางนั้น เมื่อผ่านการใช้งานไปแล้ววาล์วที่มีแกนบางจะกรอบแตกได้ง่ายกว่าแกนวาล์วแบบหนาเช่นเดียวกัน
ฐานรองพื้นที่เป็นส่วนล่างสุดของอ่างน้ำร้อนแบบ outdoor นั้น ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการรับน้ำหนัก แต่ออกแบบมาเพื่อการป้องกันความชื้น ยืดอายุการใช้งานให้กับโครงสร้างอ่างน้ำ และ ระบบไฟฟ้าภายในอ่าง เพราะหากมีน้ำขังอยู่ใต้อ่างจากน้ำฝน หรือ น้ำที่มีมาจากการใช้งานภายในอ่าง ก็จะเกิดความชื้นที่จะส่งผลเสียต่อระบบไฟฟ้า และทำให้เกิดการผุกร่อนต่อโครงสร้างได้ในระยะยาว โดยวัสดุที่ใช้ในการติดตั้งฐานจะเป็นวัสดุพลาสติก ABS , ฐานไฟเบอร์กลาส ขึ้นอยู่กับแต่ละผู้ผลิตในการเลือกใช้ติดตั้งให้กับลูกค้า
ในวันนี้ยังมีอ่างน้ำร้อนที่ผู้ผลิตบางรายเลือกที่จะไม่ติดตั้งฐานรองพื้นล่างของอ่างน้ำร้อนมาให้กับลูกค้า ซึ่งการเลือกไม่สั่งผลิตฐานล่างนั้น จะส่งผลเสียในระยะยาวให้กับโครงสร้างและระบบอ่างน้ำ การเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกอ่างที่มีการติดตั้งฐานรองพื้นมาด้วย เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ที่ไม่ควรจะตัดออกเพื่อลดต้นทุนในการซื้ออ่างน้ำร้อน อีกทั้งการติดตั้งฐานที่ดีควรมีการออกแบบให้ครอบคลุมส่วนของฐานโครงสร้างทั้งหมด ไม่ควรเป็นฐานที่มีการติดตั้งปิดเฉพาะบางส่วนเท่านั้น
6. คุณภาพของระบบไฟฟ้าของอ่างน้ำร้อน - แผงวงจร ฮีตเตอร์ และ ปุ่มกด
เมื่อกล่าวถึงระบบไฟฟ้าของอ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor ลูกค้าหลายท่านอาจจะมีความกังวลในการเลือกซื้ออ่างน้ำ เพราะมีความกลัวในเรื่องของกระแสไฟฟ้ากับการใช้อ่างน้ำ แต่การเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนที่มีระบบไฟฟ้าที่คุณภาพจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้ ระบบแผงวงจรเป็นหัวใจหลักในการควบคุมการทำงานของอ่างน้ำร้อน การเปิดใช้งานระบบนวด การตั้งอุณหภูมิความร้อน ระบบการหมุนเวียนเพื่อรักษาคุณภาพน้ำ ระบบการกรองน้ำ และ ฟังก์ชั่นเสริมเพื่อความบันเทิงอื่น ๆ อาทิ ลำโพงบลูธูท ไฟใต้น้ำ ระบบน้ำตก ระบบน้ำพุในอ่าง
ในอุตสาหกรรมการผลิตอ่างน้ำร้อน Hot Tub ทั่วโลก โรงงานที่เป็นเจ้าของยี่ห้อผลิตอ่างน้ำร้อนจะไม่ได้ผลิตส่วนประกอบของอ่างน้ำรวมถึงระบบไฟฟ้าที่ควบคุมอ่างด้วย โรงงานจะทำหน้าที่ในการเลือกวัสดุส่วนประกอบ ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ มาทำการประกอบอ่างน้ำร้อนเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งในอุตสาหกรรมการผลิตอ่างน้ำร้อน แทบจะไม่มีโรงงานหรือผู้ผลิตใด ทำการผลิตระบบไฟฟ้าและชิ้นส่วนเอง มีจำนวนน้อยมากที่โรงงานจะทำการผลิตชิ้นส่วนประกอบและระบบไฟฟ้าของอ่างน้ำ
แผงวงจรไฟฟ้า ฮีตเตอร์ และ ปุ่มกด เป็นส่วนประกอบที่สำเร็จรูปที่ผลิตมาเพื่อใช้ร่วมกันจากโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะให้กับอุตสาหกรรม Hot Tub ของโลก ซึ่งยี่ห้อที่ชื่อเสียงในการผลิตแผงวงจรไฟฟ้า ฮีตเตอร์ และ ปุ่มกดควบคุม จะมีอยู่ 2 เจ้า คือ Balboa และ Gecko สำหรับยี่ห้อที่ผู้ผลิตอ่างน้ำร้อนเลือกใช้มากที่สุด และเป็นผู้นำในทางฝั่งอเมริกา จะเป็น Balboa ซึ่งจะเป็นผู้ผลิตแผงวงจรให้แบรนด์ใหญ่อย่าง Jacuzzi ด้วย โดย Jacuzzi ได้ให้ทาง Balboa เป็นผู้ทำแผงวงจรระบบไฟฟ้าปุ่มกด และ ประทับยี่ห้อของ Jacuzzi ลงบนแผงวงและปุ่มกด นอกจากนี้ Balboa ยังผลิตให้กับยี่ห้อ ๆ ที่เป็นทั้งแบรด์ระดับบนถึงระดับล่างอีกด้วย
การที่ผู้ผลิตอ่างน้ำร้อนแม้กระทั่งรายใหญ่และผู้นำในอุตสาหกรรมยังเลือกที่จะใช้แผงวงจรจาก Balboa แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของยี่ห้อที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าโดยตรง สะท้อนถึงคุณภาพ ความปลอดภัยในการควบคุมอ่างน้ำร้อน และ ความไว้ใจในการผลิตระบบไฟฟ้าให้กับอุตสาหกรรมอ่างน้ำร้อนจาก Balboa
การเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor ลูกค้าต้องสอบถามถึงระบบแผงวงจร ฮีตเตอร์และปุ่มกด ว่าเป็นของยี่ห้อใด เพราะในวันนี้มีทางเลือกของระบบไฟฟ้าที่นอกเหนือจาก 2 ยี่ห้อข้างต้นในการควบคุมอ่าง ซึ่งจะเป็นทางเลือกอ่างน้ำร้อนที่มีราคาต่ำกว่า ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่ออายุการใช้งานในระยะยาวของอ่างน้ำร้อนให้มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า
สำหรับทางคิวแอนด์จีซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอ่างน้ำร้อนจากผู้ผลิตในประเทศจีน ก็ได้เลือกแผงวงจรไฟฟ้า ฮีตเตอร์ ปุ่มกด จาก Balboa ที่ผลิตจากอเมริกา เพราะระบบแผงวงจรไฟฟ้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน จะส่งผลต่อเรื่องความปลอดภัยของลูกค้าและผู้ใช้งานอ่างน้ำร้อน Outdoor รวมไปถึงส่งผลในด้านของการซ่อมบำรุงด้วย เพราะเมื่อตัวแทนจำหน่ายอย่างคิวแอนด์จี เลือกที่จะขายอ่างน้ำร้อนที่มีคุณภาพ นั้นหมายถึงงบประมาณ ทรัพยากรที่จะต้องสูญเสียไปกับการซ่อมบำรุงย่อมน้อยตามไปด้วย ทางคิวแอนด์จีมีแนวคิดที่ว่า หากลูกค้าได้ซื้ออ่างน้ำร้อนที่มีคุณภาพ แม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่าแผงวงจรยี่ห้ออื่น แต่มีงานซ่อมน้อย ย่อมได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย มากกว่าการขายอ่างน้ำร้อนที่มีราคาต่ำกว่า และ มีความถี่ในการซ่อมบำรุงที่บ่อยครั้ง รวมไปถึงยังมีความเสี่ยงต่อธุรกิจในด้านความปลอดภัยของลูกค้าอีกด้วย
7. Insulation ฉนวนเก็บอุณหภูมิของอ่างน้ำร้อน
หากกล่าวถึงเรื่องอ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor เรื่องของฉนวนเก็บอุณหภูมิความร้อนของน้ำในอ่างเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นเมืองหนาว อย่างเช่น ประเทศอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศษ เป็นต้น เพราะฉนวนเก็บความร้อนจะส่งผลต่อค่าไฟฟ้าของอ่างน้ำที่ลูกค้าจะต้องจ่ายทุก ๆ เดือน อุณหภูมิภายนอกที่มีความเย็นจัดจะส่งผลให้อุณหภูมิน้ำภายในอ่างลดลง และ ทำให้ฮีตเตอร์ต้องทำงานบ่อยครั้งเพื่อรักษาอุณหภูมิ จุดประสงค์ของการติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิความร้อน เพื่อลดการทำงานของฮีตเตอร์ เก็บความร้อนของน้ำในอ่างไว้ให้ได้นานที่สุด ซึ่งฉนวนเก็บอุณหภูมิในที่นี้จะกล่าวถึงฉนวนเก็บอุณหภูมิที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องอ่าง รูปแบบในการติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิจะมี 2 รูปแบบ คือ
1. การติดตั้งฉนวนแบบเต็มใต้ท้องอ่าง Full Foam Insulation หมายถึง การฉีดโฟมพียู เต็มใต้ท้องอ่างทุกส่วน โดยจะเว้นพื้นที่ในบริเวณกล่องแผงวงจรควบคุมอ่างน้ำและปั๊มน้ำไว้เท่านั้น หากลูกค้าเปิดไม้เทียมที่อยู่รอบอ่างออกจะไม่เห็นสายไฟ ท่อน้ำ ชิ้นส่วนของระบบนวด และ ไม่เห็นโครงสร้างภายในอ่างน้ำร้อนเลย ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิของอ่างน้ำร้อน สามารถที่จะเก็บอุณหภูมิน้ำอุ่นได้นานและประหยัดค่าไฟฟ้าให้กับลูกค้าได้มากที่สุด
วิธีการติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิของอ่างน้ำร้อนวิธีนี้จะมีเฉพาะอ่างน้ำร้อนระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ อาทิ Jacuzzi , Master Spa , Artesian Spas เป็นต้น ซึ่งยี่ห้ออ่างน้ำร้อน Outdoor ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแบรนด์ระดับบน ที่เน้นด้านการสร้างนวัตกรรมคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าระดับบนได้สินค้าที่มีคุณภาพสูง ซ่อมแซมน้อย และ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน 25 - 30 ปี ขึ้นไป โดยแบรนด์ดังอย่าง Jacuzzi ที่เป็นอ่างน้ำร้อนที่ใช้ส่วนประกอบชิ้นส่วนจากอเมริกาแบบ 100 % และเป็นผู้คิดค้นเรื่องระบบนวดหัวนวดเจ็ทนั้น มีราคาจำหน่ายในประเทศไทย 8 แสน - 1 ล้าน บาทขึ้นไป ในอ่างแบบ 5 - 6 คน
2. การติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิใต้ท้องอ่างแบบบางส่วน รูปแบบการติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิในวิธีนี้ในแต่ละโรงงานผู้ผลิต จะมีการติดตั้งที่แตกต่างกันออกไป ทั้งด้านความหนา วัสดุที่เลือกใช้
โดยจะมีการติดตั้งอยู่ที่ 3 จุด ดังนี้
การฉีดฉนวนอุณหภูมิด้านหลังของเนื้ออ่าง ซึ่งจะมีความหนาที่ 1 - 3 ซม.
การติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิที่ผนังไม้เทียมรอบอ่าง ความหนา 2 - 3 ซม.
การติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิที่ฐานรองพื้นด้านใน ความหนา 1 - 3 ซม.
สำหรับข้อเสียของการติดตั้งฉนวนอุณหภูมิแบบเต็มใต้ท้องอ่าง หรือ Full Foam Inslation คือ กรณีที่มีการรั่วซึมที่ท่อน้ำของระบบนวด เบ้าของหัวนวด และ ตามจุดข้อต่อต่าง ๆ จะทำให้เสียเวลาในการค้นหาจุดต้นต่อของการรั่วซึม ซึ่งจำเป็นต้องรื้อโฟมใต้ท้องอ่างออก ทำให้การเข้าถึงในการซ่อมบำรุงปัญหาต่าง ๆ ได้ยาก เพราะทุกส่วนใต้ท้องอ่างถูกปิดผนึกด้วยโฟมเก็บอุณหภูมิ และแม้ว่าจะได้รับการซ่อมแซมแก้ไขไปแล้ว ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการฉีดฉนวนโฟม กลับเข้าไปท้องอ่างดังเดิมอีกด้วย รวมไปถึงจะมีความเสี่ยงของการเข้าไปอยู่อาศัยและทำลายความเสียหายต่อระบบอ่างน้ำจากสัตว์ขนาดเล็ก เช่น หนูได้ โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าไม่ได้ใช้งานอ่างน้ำร้อนเป็นเวลานาน ๆ หลายเดือน ธรรมชาติของหนูจะเข้าไปอยู่ในที่เงียบหากไม่มีการทำงานของปั๊มน้ำ
แต่สำหรับการติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิแบบส่วนหนึ่งของอ่างน้ำร้อนนั้น สามารถที่จะค้นพบต้นต่อของปัญหารั่วซึมและเข้าแก้ไข้ เปลี่ยนอุปกรณ์อะไหล่ต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วกว่า เพราะเมื่อเปิดฝาไม้เทียมรอบอ่างออก ก็สามารถที่จะตรวจสอบปัญหาของอ่างน้ำร้อนได้ทันที
ส่วนข้อเสียของการติดตั้งฉนวนเก็บใต้ท้องอ่างแบบบางส่วนนั้น สำหรับในประเทศเมืองหนาว วิธีการติดตั้งนี้จะไม่ส่งผลให้เกิดประโยชน์ในการเก็บอุณหภูมิ เพราะความหนาและจุดในการติดตั้งนั้นไม่เพียงพอในการเก็บรักษาอุณหภูมิความร้อนต่อสภาพอากาศที่เย็นจัด แต่วิธีการติดตั้งนี้ก็ยังเป็นที่นิยมในหลายประเทศ ที่ไม่หนาวมากอย่างออสเตเลีย และรวมถึงประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน เพราะเป็นวิธีในการติดตั้งฉนวนที่จะช่วยเก็บอุณหภูมิได้มากกว่าถึงครึ่งหนึ่งของต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ลูกค้าจะต้องจ่ายรายเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับอ่างน้ำร้อน Outdoor ที่ไม่ไดมีการติดตั้งฉนวนภายใต้ท้องอ่างใด ๆ เลย
หากลูกค้าเป็นผู้กำลังเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน แล้วพบว่าผู้ผลิตรายใดไม่ได้มีการติดตั้งฉนวนเก็บอุณหภูมิใต้ท้องอ่างมาเลย จะเป็นอ่างที่มีราคาจำหน่ายที่ต่ำกว่า ซึ่งได้ผลิตออกมาในแนวคิดของการต้นทุนและลดระยะเวลาในการผลิตอ่างน้ำร้อนในสายการผลิตของโรงงาน อีกทั้งการเลือกซื้ออ่างน้ำร้อน Outdoor ที่ไม่มีฉนวนใต้ท้องอ่างมาเลยนั้น จะมีค่าไฟฟ้าที่ลูกค้าจะต้องจ่ายรายเดือนที่สูงกว่า
ฝาปิดอ่างน้ำร้อน
ฝาปิดอ่างน้ำร้อน Outdoor มีวัตถุประสงค์เพื่อการเก็บอุณหภูมิของน้ำในอ่าง เพราะการคลายความร้อนส่วนใหญ่แล้วน้ำจะระเหยออกทางด้านบนมากกว่าด้านส่วนล่างของอ่างน้ำ การเลือกอ่างน้ำร้อนที่มาพร้อมกับฝาปิดที่มีคุณภาพก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นผิวอ่างด้วย เพราะฝาปิดจะช่วยป้องกันพื้นผิวของอ่างน้ำที่จะได้รับแสงแดดโดยตรง
การเลือกฝาปิดที่มีคุณภาพสิ่งแรก คือ พิจารณาในเรื่องของความหนา อ่างที่มีขนาดใหญ่จำเป็นต้องมีฝาปิดที่มีความหนาเพียงพอต่อการเก็บอุณหภูมิน้ำในอ่าง ฝาปิดที่มีความหนาจะช่วยเก็บอุณหภูมิได้มากกว่าแบบบาง ซึ่งยี่ห้ออ่างน้ำร้อนระดับบนนั้นจะมีการติดตั้งฝาปิดที่หนาเป็นอย่างมาก แต่สำหรับในประเทศไทยทางคิวแอนด์จีแนะนำว่า ควรจะมีฝาปิดที่มีความหนาเหมาะสมก็เพียงพอ เพราะอากาศในประเทศไทยไม่ได้หนาวมากนัก ทั้งนี้ฝาปิดที่มีความหนาจะมาพร้อมกับน้ำหนักของฝาที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะเป็นผลเสียในแง่ของการใช้งาน การเปิดปิดฝาแต่ละครั้งจะทำให้เกิดความยากลำบาก โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นผู้หญิง ผู้สูงอายุ ทั้งนี้ขนาดความหนาของฝาปิด จะมีความหนาที่ 3.5 - 2.5 นิ้ว , 4 - 3 นิ้ว , 5 - 4 นิ้ว , 6 - 5 นิ้ว , 7 - 6 นิ้ว , และ 8 - 7 นิ้ว ผู้ผลิตจะเลือกติดตั้งฝาปิดที่มีความหนาตามขนาดของอ่างน้ำที่ใหญ่ขึ้นจนถึงสระว่ายน้ำทวนกระแส
หมายุเหตุ : ขนาดความหนา 3.5 - 2.5 นิ้ว หมายถึง ความหนาตรงกลางฝาปิดจะอยู่ที่ 3.5 นิ้ว และฝาปิดจะมีความลาดเอียงออกไปด้านข้างอ่างจนมีขนาดความหนาที่ 2.5 นิ้ว ที่ด้านข้างอ่าง เพราะฝาปิดออกแบบมาให้ถ่ายเทน้ำฝนได้ด้วยตนเอง เพื่อไม่ให้มีน้ำฝนขังบนฝาอ่าง จึงมีการออกแบบให้ส่วนกลางของฝาปิดหนากว่าส่วนด้านข้างอ่าง
ฝาปิดวัสดุภายในจะเป็นโฟมแบบแข็งที่หุ้มด้วยไวนิล ให้ความรู้สึกพื้นผิวของฝาเหมือนกับหนังเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งไวนิลที่หุ้มฝาปิดนั้นควรเป็นเกรดที่ใช้ทางทะเล ซึ่งจะมีความคงทนต่อสภาพอากาศความร้อนและน้ำฝนได้ ฝาปิดที่ดีควรมีการหุ้มด้วยพลาสติกภายในวัสดุโฟมอีกหนึ่งชั้นเพื่อป้องกันความชื้น การเกิดเชื้อราที่จะเกิดขึ้นบนวัสดุโฟม เพื่อป้องกันไม่หักโฟมแตกหักก่อนอายุการใช้งานจริง
8. การติดตั้งไม้เทียมรอบอ่างน้ำร้อน
จุดประสงค์ของประเด็นนี้ คือ อ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor จะต้องมีการติดตั้งไม้เทียมมาด้วยทุกอ่าง เพราะไม้เทียมจะช่วยป้องกันแสงแดด น้ำฝน ฝุ่นละออง สัตว์มีชีวิตขนาดเล็ก ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานใหักับโครงสร้างและระบบไฟฟ้าภายใต้ท้องอ่าง แม้ว่าลูกค้าจะเลือกที่จะติดตั้งอ่างน้ำร้อนแบบฝังก็ตาม ทางคิวแอนด์จียังคงแนะนำว่าไม่ควรจะตัดส่วนประกอบไม้เทียมเพื่อลดต้นทุนในการซื้ออ่างน้ำร้อนออก เพราะการฝังอ่างน้ำร้อนนั้น ในส่วนของใต้พื้นดินจะมีความชื้นมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่ออายุการใช้งานในระยะยาว
9. ตัวแทนจำหน่ายอ่างน้ำร้อน
สาเหตุที่ตัวแทนจำหน่ายมีผลต่ออายุการใช้งานของอ่างน้ำร้อน เพราะในการขนย้ายอ่างแต่ละครั้ง ตั้งแต่สินค้าออกจากท่าเรือมาสู่คลัง และ การจัดส่งอ่างน้ำร้อนไปยังหน้างานของลูกค้า การขนย้ายมีผลต่อโครงสร้างอ่างและการรับประกันจากทางผู้ผลิต แม้ว่าลูกค้าจะได้ทำการเลือกอ่างน้ำร้อนที่มีคุณภาพแล้วก็ตาม แต่หากเลือกตัวแทนจำหน่ายที่ไม่มีประสบการณ์และเครื่องมือในการขนย้ายที่ปลอดภัยต่อโครงสร้าง อ่างน้ำร้อนอาจจะได้รับความเสียหายในขณะจัดส่งติดตั้งได้
อ่างน้ำร้อน Outdoor เป็นสินค้าชิ้นใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก อีกทั้งมีเรื่องของความสวยงามของอ่างน้ำเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อลูกค้า การขนย้ายอ่างน้ำร้อนนั้นไม่ควรที่จะใช้แรงงานคนยกอ่างเพียงอย่างเดียว มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือขนย้าย ความเข้าใจ ประสบการณ์ในการติดตั้งเคลื่อนย้ายอ่างน้ำร้อน
ยกตัวอย่างกรณี การเคลื่อนย้ายอ่างน้ำจากหน้าบ้านไปติดตั้งหลังบ้าน หากใช้แรงคน 6 คน ยกอ่างตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้าน อาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้นได้ เพราะระหว่างทางเดินจะหากมีคนสะดุด ล้มไปหนึ่งคน แรงงานอีก 5 คน จะไม่สามารถยกอ่างลอยต่อไปได้ การตกกระแทกเพียงเล็กน้อย จะส่งผลต่อโครงสร้างในระยะยาว เพราะอ่างน้ำจะมีจุดเสี่ยงเมื่อต้องแบกรับน้ำหนักน้ำในอ่าง และ ในกรณีการติดตั้งอ่างบนอาคารชั้นดาดฟ้า อาคารสูงหลายชั้นการเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมและมีความปลอดภัย จะช่วยลดความเสี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นโดยรอบบ้านและอาคารของลูกค้าได้ ซึ่งจะมาจากความรู้ ประสบการณ์ของตัวแทนจำหน่ายอ่างน้ำร้อน
การติดตั้งด้านระบบไฟฟ้าก็มีผลต่ออายุการใช้งานของอ่างน้ำร้อนเช่นเดียว การติดตั้งระบบไฟฟ้าจากบ้านของลูกค้าไปยังอ่างน้ำ หากมีการเลือกขนาดของสายไฟ อุปกรณ์การติดตั้งสายไฟ อุปกรณ์ป้องกันความเสียหาย อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่อลูกค้าและผู้ใช้งาน การเชื่อมต่อระบบเข้ากับแผงวงจรของอ่างน้ำร้อน ความชำนาญ ความเชี่ยวชาญในการติดตั้งระบบไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้าที่เป็นไปตามมาตรฐานของตัวแทนจำหน่าย จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับอ่างน้ำร้อน และ ช่วยป้องกันความปลอดภัยให้กับลูกค้าได้
การให้คำแนะนำในการใช้งานที่ถูกวิธีต่ออ่างน้ำร้อนจากตัวแทนจำหน่ายให้กับลูกค้า จะส่งผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของอ่างน้ำ เพราะการใช้งานผิดวิธี การดูแลน้ำที่ผิดวิธี การดูแลอ่างที่ผิดวิธี จะส่งผลเสียต่อการทำงานของระบบปั๊มน้ำและวงจรไฟฟ้าของอ่างน้ำร้อน หากลูกค้าเลือกอ่างน้ำที่มีคุณภาพแต่ใช้งานผิดวิธี ไม่เข้าใจการทำงานระบบอ่างน้ำ ก็จะทำให้อ่างน้ำมีปัญหาหลังการติดตั้งได้ในระยะยาว
ซึ่งรวมไปถึงความเชี่ยวชาญในการซ่อมบำรุงอ่างน้ำร้อน กรณีที่เกิดปัญหา หากตัวแทนจำหน่ายที่ไม่มีประสบการณ์ไม่มีความรู้ความใจต่ออ่างน้ำร้อน ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ หรือ อาจจะแก้ไขได้แต่ปัญหาไม่หายขาด ซึ่งการแก้ไขหาที่ผิดวิธี ไม่เป็นไปตามขั้นตอน จะส่งผลเสียต่อเนื่องต่อระบบของอ่างน้ำร้อน เพราะระบบอ่างน้ำมีความเชื่อมโยงถึงกันในการควบคุมอ่างน้ำจากแผงวงจรไฟฟ้า
นอกจากนี้การให้คำแนะนำในด้านของพื้นที่หรือจุดที่ลูกค้าต้องการติดตั้งอ่างน้ำร้อน ก็มีผลต่ออายุการใช้งานอ่างเช่นเดียว การติดตั้งอ่างน้ำร้อนในพื้นที่ที่เหมาะสมจะสามารถป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อโครงสร้างอ่างน้ำร้อนได้ในระยะยาว
ติดตามเลือกซื้ออ่างน้ำร้อนแบบ Outdoor ได้ที่ลิงค์
โทร.087-816-6383
จัดหน่ายอ่างน้ำร้อน Outdoor โดย
ห้างหุ้นส่วนจำกัด คิวแอนด์จี

การลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถสร้างคุณประโยชน์ต่อด้านร่างกายได้หลากหลาย โดยการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟู การบำบัด การบรรเทาอาการเจ็บปวด และ ปัญหาด้านสุขภาพได้ตามศาสตร์ของธาราบำบัด การแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถส่งผลให้เกิดประโยชน์ด้านสุขภาพ ได้จาก 3 ปัจจัยหลัก ดังต่อไปนี้
- ระบบนวดเจ็ท ( Hydrotherapy Jets Massage )
- อุณหภูมิของน้ำอุ่น ( Warm Water ) อุณหภูมิความร้อน 35 - 40 องศาเซลเซียส
- คุณประโยชน์จากแรงพยุงตัวของน้ำ ( Buoyancy )


ในบทความนี้ทางคิวแอนด์จี จะมานำเสนอแง่มุมคุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อน เพื่อใช้สำหรับการแช่น้ำอุ่นบริเวณพื้นที่ภายนอกบ้าน ที่จะส่งผลให้ข้อดีต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ( Privacy ) เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิต การเพิ่มระดับคุณภาพชีวิต การให้คุณค่าของความสุขอันพิเศษเฉพาะตน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้าน อันเป็นสถานที่ให้ความรู้สึกสบายใจได้ทุก ๆ วัน
เพื่อความผ่อนคลาย แบบส่วนตัว
คุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อนภายนอกบ้าน คือ การสร้างพื้นที่ในการพักผ่อนแบบส่วนตัว โดยลูกค้าสามารถผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำที่บ้าน โดยไม่ต้องพบปะคลุกคลีกับบุคคลอื่นที่เราไม่ได้รู้จัก การผ่อนคลายในสถานที่ส่วนตัว เป็น ความสุข ด้วยการหลีกออกจากสังคมภายนอก ต่างไปจากการใช้บริการในสถานดูแลสุขภาพ เช่น ส่วนกลางสปาของโรงแรม รีสอร์ท บ่อน้ำอุ่นแบบรวม ศูนย์ธาราบำบัด บ่อน้ำแร่ออนเซ็น เป็นต้น