ระบบเกลือ กับ อ่างน้ำร้อน OUTDOOR
- โดย Q&G
- •
- 08 พ.ย., 2565
- •
ระบบเกลือ คือ อะไร , ผลลัพธ์ในการใช้ระบบเกลือในอ่างน้ำร้อน

ในวันนี้เริ่มมีคนจำนวนมากรู้จักกับสระว่ายน้ำระบบเกลือเพิ่มมากขึ้น มีทัศนคติที่ดีต่อเทคโนโลยีของระบบเกลือ ว่าเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อร่างกาย มีผลเสียน้อย สามารถทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำได้ เมื่อเปรียบเทียบระบบเกลือกับสระว่ายน้ำที่มีการฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีน ระบบเกลือเป็นระบบที่ผู้คนต่างให้เครดิตมากกว่าคลอรีน แต่ทัศนคติทีดีต่อระบบเกลือนั้น จำเป็นต้องใช้ข้อมูลอ้างอิงถึงประโยชน์ของระบบเกลือให้อยู่บนความเป็นจริง เพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจเลือกซื้อระบบเกลือสำหรับอ่างน้ำร้อนได้อย่างคุ้มค่า
จากประสบการณ์ของลูกค้าที่เข้ามาที่คิวแอนด์จี มีลูกค้าหลายท่าน เชื่อว่าระบบเกลือ เป็นระบบที่สามารถเข้ามาทดแทนการใช้คลอรีนในสระว่ายน้ำได้แบบ 100 % ซึ่งมีลูกค้าอีกหลายท่านไม่ทราบว่าระบบเกลือคืออะไร และ มีลูกค้าบางส่วนเริ่มตั้งคำถามถึงอ่างน้ำร้อน OUTDOOR ว่า อ่างน้ำร้อนสามารถที่จะติดตั้งระบบเกลือแทนการใช้คลอรีนได้หรือไม่ ซึ่งคำถามนี้เกิดมาจากความเข้าใจผิด ความไม่เข้าใจถึงการทำงานของระบบเกลือ การดูแล ผลดี ผลเสีย และผลลัพธ์ ที่จะเกิดขึ้นต่อระบบอ่างน้ำร้อน
ระบบเกลือ คือ ระบบฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ซึ่งระบบเกลือสามารถทำลายเชื้อรา ไว้รัส แบคทีเรีย ตะไคร่น้ำ และ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กได้ ระบบเกลือไม่ใช่ระบบกรองน้ำ ระบบเกลือไม่ได้ทำหน้าที่ดักจับสิ่งสกปรก ระบบเกลือจะประกอบด้วย กระบอกแท่งไทเนียม และ ชุดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในการควบคุมระบบเกลือ
การทำงานของระบบเกลือ ในอ่างน้ำร้อน และ สระว่ายน้ำ มีหลักการทำงานที่เหมือนกัน ในส่วนของระบบเกลือจะมีความแตกต่างกันที่ขนาดของเครื่องผลิต รูปทรงของเครื่องที่ต่างกัน โดยออกแบบมาเพื่อทำการเชื่อมต่อเข้ากับระบบสระว่ายน้ำ หรือ อ่างน้ำร้อน แต่หลักในการทำงาน ที่ลูกค้าจะได้รับไม่มีความแตกต่างกัน
ในการทำงานของระบบเกลือ เริ่มต้นจากลูกค้า จะต้องใส่เกลือลงไปในสระว่ายน้ำ จากนั้นระบบปั๊มพ์จะดูดน้ำที่มีเกลือผสมอยู่ เข้าสู่กระบอกแท่งไทเทเนียม ซึ่งจะทำหน้าที่ในการแยกโมเลกุลทางเคมีของเกลือที่อยู่ในน้ำ เพื่อทำการผลิตตัวฆ่าเชื้อโรคออกมาจากเกลือ ซึ่งสิ่งที่ระบบเกลือผลิตออกมา ก็คือ คลอรีน
ระบบเกลือ ก็คือ ระบบผลิตคลอรีน นั่นเอง ซึ่งคนส่วนใหญ่มีความเข้าใจผิดในเรื่องนี้กันจำนวนมาก โดยมีความคิดว่าระบบเกลือ คือ การใช้เกลือฆ่าเชื้อโรค ใช้เกลือเป็นตัวทำลายสิ่งสกปรกที่อยู่ในน้ำ แทน การใช้คลอรีน ซึ่งเป็นข้อมูลความเชื่อที่ผิดไปจากความเป็นจริง
การวัดระดับค่าความสะอาดของน้ำในอ่างน้ำร้อน และ ในสระ่วายน้ำ ที่มีการติดตั้งระบบเกลือ จะต้องวัดที่ค่าของ “ฟรีคลอรีน” หรือ คลอรีนอิสระที่ทำหน้าที่ในการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งเป็นวิธีการวัดค่าแบบเดียวกับสระ่วายน้ำที่ใช้คลอรีนแบบเคมี ความต้องการของระดับค่าฟรีคลอรีนในสระว่ายน้ำ ระหว่างสระระบบเกลือ กับ สระระบบคลอรีน จะไม่ได้มีความต้องการของระดับค่าฟรีคลอรีนที่แตกต่างกัน
การใช้งานระบบเกลือที่ผิดวิธี สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ไม่แตกต่างกับการใช้คลอรีนที่อยู่ในรูปของเคมีที่ใส่ลงไปในน้ำโดยตรง ซึ่งการใช้งานระบบเกลือที่เกินปริมาณส่งผลให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนัง ดวงตา อาการแพ้บนศรีษะเส้นผม รวมไปถึงสามารถส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย
ทำไมระบบเกลือถึงได้รับความนิยม
สิ่งแรกที่ทำให้ระบบเกลือ ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย คือ ชื่อของระบบเกลือ ระบบเกลือมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Chlorine Generator ซึ่งหากจะแปลเป็นภาษาไทย สามารถที่จะแปลแบบตรงตัวว่า เครื่องผลิตคลอรีน หรือ ระบบผลิตคลอรีน นั่นเอง
แต่ด้วยรูปแบบวิธีการใช้งานของระบบเกลือ ที่มีขั้นตอนในการใส่เกลือลงไปในน้ำ เพื่อใช้เกลือเป็นสารตั้งต้นในการผลิตคลอรีน จึงมีนักการตลาดที่เข้าใจถึงทัศนคติ หรือ ความคิดเห็นทางด้านลบของผู้บริโภคคนไทย ที่มีต่อคลอรีนในสระว่ายน้ำ ซึ่งมาจากปัญหาด้านสุขภาพ ที่หลายท่านได้พบเจอหลังจากไปใช้งานสระว่ายน้ำสาธารณะที่มีการฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีน จึงทำให้นักการตลาดหลบเลี่ยงในเรื่องของชื่อเรียกโดยตรง แล้วทำการเรียกชื่อใหม่ในแบบไทยจากเครื่องผลิตคลอรีนว่า ระบบเกลือ
ปัจจัยข้อที่ 2 ทีทำให้ระบบเกลือกลายเป็นระบบที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในวงการสระว่ายน้ำ คือ รูปแบบการทำงานของระบบเกลือ ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาแทนการใช้คลอรีนที่เป็นเคมีโดยตรง

ปัญหาของการใช้คลอรีนในสระว่ายน้ำ
การใช้คลอรีนในสระว่ายน้ำ จะต้องใช้คนดูแลเป็นผู้ทำการใส่คลอรีนลงไปในสระว่ายน้ำ โดยจะต้องผ่านการคิดคำนวณเพื่อกำหนดปริมาณการใช้คลอรีนให้ได้ระดับมาตรฐาน โดยปกติแล้วสภาพน้ำในสระจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในแต่ละสัปดาห์นั้นจะมีการใช้คลอรีนที่ไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น สัปดาห์ที่ 1 ของเดือน เมื่อมีผู้คนต่างมาใช้สระว่ายน้ำจำนวนมาก จึงทำให้ต้องมีการใส่คลอรีนมากกว่าสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ที่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนมาลงสระ เป็นต้น
ทั้งนี้สระว่ายน้ำแต่ละแห่ง ไม่ได้มีสูตรกำหนดตายตัวในการใส่คลอรีนลงไปในสระ่วายน้ำ จึงทำให้การดูแลสระว่ายน้ำแต่ละสถานที่มีความแตกต่างกันออกไป ในการกำหนดปริมาณการใช้คลอรีนในสระ ซึ่งปัจจัยสำคัญ คือ บุคคล ที่ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลสระว่ายน้ำ ซึ่งจะต้องเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความเข้าใจ ถึงตัวแปรอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อปริมาณการใช้คลอรีนด้วย อาทิ เช่น ระดับค่า pH ในสระว่ายน้ำจะต้องถูกปรับให้อยู่ในระดับมาตรฐาน เพราะค่า pH สามารถส่งผลดีและผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานของคลอรีนได้ เป็นต้น
ความผิดพลาดในการดูแลสระว่ายน้ำ ย่อมเกิดขึ้นได้ จากการใส่คลอรีนเกินปริมาณ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสระว่ายน้ำสาธารณะที่มีปัญหาส่งผลเสียต่อผู้ใช้บริการนั้น เกิดจากการใช้คลอรีนที่เกินปริมาณ ทางคิวแอนด์จีขอยกตัวอย่างสถานการณ์ ความผิดพลาดในการดูแลสระว่ายน้ำที่มีการใช้คลอรีน จากผู้ดูแลสระ
สระว่ายน้ำสาธารณะแห่งหนึ่ง มีการใช้คลอรีนในการบำบัดน้ำฆ่าเชื้อโรค ด้วยปริมาณ 3 ก้อน ต่อสัปดาห์ หากผู้ดูแลสระว่ายน้ำไม่มีความรู้เรื่อง ค่า pH ในสระว่ายน้ำ เมื่อระดับค่า pH ภายในสระเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้คลอรีนที่ใส่ลงไปไม่ทำงาน เนื่องจากคลอรีนไม่สามารถทำงานได้ในสภาพน้ำที่เป็นด่างสูง เมื่อสระว่ายน้ำเกิดสภาพขุ่นมัว ไม่ใสสะอาด คนดูแลสระ จึงทำการเพิ่มปริมาณคลอรีนลงไปในสระ เป็น 4 - 5 ก้อนต่อสัปดาห์ เมื่อคนดูแลสระทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จึงทำให้เกิดก็าซคลอรีนลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ ทำให้มีปริมาณคลอรีนจำนวนมากที่อยู่ในสระน้ำ ซึ่งเป็นคลอรีนที่ไม่ทำงาน เมื่อมีคลอรีนสะสมตัวอยู่ในน้ำจำนวนมากจนเกินมาตรฐานของการบำบัดน้ำ จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายของผู้ที่ไปใช้งานสระว่ายน้ำสาธารณะแห่งนี้

ระบบเกลือแก้ปัญหาเรื่องการใช้คลอรีนเกินปริมาณ
สำหรับสระว่ายน้ำที่ทำการติดตั้งระบบเกลือ ระบบเกลือสามารถที่จะผลิตคลอรีนออกมาได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งจะมีการตั้งค่าช่วงเวลาการทำงานในแต่ละวันของระบบเกลือ อาทิ การตั้งค่าให้ระบบเกลือทำงานวันละ 8 ชั่วโมง เป็นต้น สำหรับผู้จัดจำหน่ายระบบสระว่ายน้ำ จะมีการคิดคำนวณขนาดของระบบเกลือ ที่จะติดตั้งลงไปในสระว่ายน้ำ และ ระยะเวลาที่ระบบเกลือจะต้องทำการผลิต เพื่อให้ระบบเกลือสามารถทำการผลิตคลอรีนออกมาเพื่อฆ่าเชื้อโรคในปริมาณที่เ่หมาะสมได้ เมื่อระบบเกลือเป็นระบบที่มีการทำงานแบบอัตโนมัติ มีการกำหนดชั่วโมงในการทำงานที่แน่นอน มีการอัตราส่วนของคลอรีนที่ผลิตที่คงที่ จึงสามารถป้องกันปัญหาการใช้งานคลอรีนเกินปริมาณได้ดีมากกว่า วิธีการดูแลสระว่ายน้ำด้วยการใช้คลอรีนที่ควบคุมปริมาณการใช้คลอรีนโดยผู้ดูแลสระ
อ่างน้ำร้อน Outdoor กับ ระบบเกลือ
สินค้าประเภท Hot Tub หรือ อ่างน้ำร้อน Outdoor โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมติดตั้งระบบโอโซน ระบบยูวี การใช้แร่ธาตุเงินและทองแดง เพื่อการฆ่าเชื้อโรค การใช้น้ำยาชีวะภาพ น้ำยาจุลทรีย์ในการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งระบบต่าง ๆ ที่กล่าวไปทั้งหมดเป็นระบบที่ติดตั้งมาจากโรงงานผู้ผลิตอ่างน้ำร้อน ซึ่งลูกค้ายังคงต้องมีการใช้คลอรีนร่วมลงไปในอ่างน้ำร้อน เพราะไม่ว่าระบบใดก็ตามที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในอ่างน้ำร้อน จะไม่สามารถยกเลิกการใช้คลอรีนแบบถาวรได้ แต่สามารถใช้คลอรีนในอัตราส่วนที่น้อยลงกว่ามาตรฐานได้ ยกตัวอย่าง มาตรฐานสำหรับการใช้คลอรีนในอ่างน้ำร้อนเพียงเพื่อการฆ่าเชื้อโรคเพียงอย่างเดียว จะต้องมีค่าคลอรีนอยู่ที่ 3 - 5 ppm แต่ สำหรับอ่างน้ำร้อนที่มีการติดตั้งระบบฆ่าเชื้อโรคแบบอื่นอาทิ ระบบโอโซนเราสามารถที่จะลดปริมาณการใช้คลอรีนให้เหลือ 1 - 2 ppm ได้ เป็นต้น
ส่วนระบบเกลือที่ติดตั้งภายในตัวของอ่างน้ำร้อน โดยส่วนใหญ่แล้วในอุตสาหกรรมการผลิตอ่างน้ำร้อน Hot Tub ของโลก แทบจะไม่มีผู้ผลิตรายใดติดตั้งระบบเกลือในอ่างน้ำร้อน มีผู้ผลิตเพียง 2 รายเท่านั้น ที่มีการติดตั้งระบบเกลือในอ่างน้ำร้อน คือ Hot Spring และ Caldera Spas ซึ่งผู้ผลิตทั้ง 2 รายมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาแบบ 100 % ส่วนอ่างน้ำร้อนระบบเกลือจากโรงผู้ผลิตอื่น ๆ จะเป็นการติดตั้งเป็นระบบเสริมที่ลูกค้าซื้อมาติดตั้งภายหลัง
การที่มีผู้ผลิตอ่างน้ำร้อนเพียง 2 เจ้า ที่ทำการติดตั้งระบบเกลือในอ่างน้ำร้อน สะท้อนให้เห็นถึงข้อโต้แย้งในการใช้ระบบเกลือลงไปในอ่างน้ำร้อน แล้วระบบเกลือมีจุดอ่อนอย่างไร ส่งผลเสียอย่างไรต่อลูกค้า ส่งผลกระทบอะไรต่อระบบอ่างน้ำร้อน จึงทำให้ผู้ผลิตอ่างน้ำร้อนส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ทำการติดตั้งระบบเกลือลงไปภายในตัวอ่างน้ำร้อน

จุดอ่อนของระบบเกลือ
การใช้งานระบบเกลือนั้น ลูกค้าจำเป็นต้องมีการควบคุมปริมาณเกลือที่ใส่ลงไปในน้ำ ให้ได้ระดับมาตรฐานตามความต้องการของเครื่องผลิต การใส่เกลือที่มากเกินไป จะทำให้เกิดการผลิตคลอรีนที่เกินปริมาณได้ ในทางกลับกัน หากลูกค้าใส่เกลือในอ่างน้ำร้อน Outdoor น้อยเกินไป จะทำให้ระบบไม่สามารถที่จะทำการผลิตคลอรีนเพื่อการฆ่าเชื้อโรคในอ่างน้ำร้อนได้ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาน้ำเสียต่าง ๆ ตามมาได้
แม้ว่าเกลือที่ลูกค้าใส่ลงไปในอ่าง จะไม่ได้สลายตัวหมดไปกับแสงแดด และการระเหยของน้ำ เกลือที่อยู่ในอ่างน้ำร้อนจะอยู่ในน้ำจนกว่าลูกค้าจะทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำทิ้ง ในการใช้งานปกติเกลือในอ่างน้ำร้อนอาจจะมีระดับที่ลดน้อยลงได้จากการใช้งานของลูกค้า ดังนั้นลูกค้ายังคงต้องทำการตรวจเช็คระดับค่าเกลือในอ่างน้ำร้อนด้วยเครื่องวัดเฉพาะ เพื่อรักษาระดับค่าเกลือให้ได้มาตรฐานอยู่เป็นประจำ
ระบบเกลือ เป็น ระบบที่ทำการผลิตคลอรีนออกมา ณ จุดที่ทำการติดตั้งกระบอกแท่งไทเทเนียม จึงทำให้ระบบเกลือ จำเป็นต้องใช้เวลาที่ยาวนานกว่า การใช้คลอรีนที่อยู่ในรูปแบบของเคมี คลอรีนแบบก้อน แบบเกล็ด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วปริมาณค่าคลอรีนที่ผลิตออกมาจากระบบเกลือ จะมีปริมาณที่ต่ำ จึงมีความจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาผลิตหลายชั่วโมง อ่างน้ำร้อนระบบเกลือจึงจะใช้เวลาที่นานกว่า ในการฆ่าเชื้อโรค ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่น้ำในอ่างมีสภาพเป็นสีเขียว มีการเติบโตของตะไคร่น้ำ การฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีนที่เป็นเคมี จะเปลี่ยนสภาพน้ำที่เป็นสีเขียวให้กลับมาใสสะอาดได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่าการทำงานของระบบเกลือ
เมื่อสารตั้งต้นที่ใช้ในการฆ่าเชิ้อโรค คือ เกลือ จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อ พื้นผิว ระบบท่อ โครงสร้าง ชุดวาล์ว อุปกรณ์ข้อต่อ ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ของอ่างน้ำร้อนได้ เกลือทำให้เกิดการกัดกร่อนได้มากในอ่างน้ำร้อน ซึ่งในอ่างน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิน้ำอุ่น 35 - 40 องศา จะทำให้สภาพเกลือที่อยู่ในน้ำสร้างการกัดกร่อนได้มากกว่าเกลือที่อยู่ในน้ำอุณหภูมิปกติ หรือ เรียกได้ว่าระบบเกลือในอ่างจะมีความกัดกร่อนสูงเนื่องจากน้ำอุ่นในอ่าง โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เป็นส่วนของเหล็ก จำพวก ปั๊มพ์น้ำ ฮีทเตอร์ หัวนวดเจ็ท ซึ่งระบบเกลือจะทำให้อายุการใช้งานของอ่างน้ำร้อนโดยรวมสั้นลง ระบบเกลือในอ่างน้ำร้อนจะทำให้เกิดปัญหาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นได้อนาคต เพราะจำเป็นต้องมีการดูแลซ่อมบำรุง เปลี่ยนอะไหล่บ่อยกว่า อ่างน้ำร้อนที่ไม่ได้มีการติดตั้งระบบเกลือ
ซึ่งนอกจากเกลือจะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบภายในอ่างน้ำร้อนได้แล้ว ยังส่งผลให้เกิดความเสียหายบริเวณพื้นที่โดยรอบได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ทำให้เกิดเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ Outdoor ที่อยู่บริเวณใกล้อ่าง ทำให้เกิดคราบสีขาวเกาะตามพื้นทางเดินรอบอ่าง ทำให้โครงสร้างของพื้นไม้เทียม ที่มีเหล็กเป็นฐานยึด เกิดการชำระผุกร่อนได้ง่ายขึ้น
ระบบเกลือไม่ได้เป็นระบบที่ปราศจากเคมี 100 % อ่างน้ำร้อนระบบเกลือยังต้องมีการรักษาระดับค่า pH ในอ่าง ลูกค้ายังต้องทำการปรับค่า pH ทำการใส่เคมีเพิ่ม หรือ ลด ระดับค่าพีเอชในอ่าง ไม่ต่างไปจากอ่างน้ำร้อนที่มีการใช้คลอรีนแบบเคมีโดยตรง ระบบเกลือไม่ได้เป็นระบบการดูแลความสะอาดของน้ำในอ่างอัตโนมัติ แต่เป็นเพียงการเปลี่ยนขั้นตอนในการฆ่าเชื้อโรคเพียงปัจจัยเดียวเท่านั้น ปัจจัยในการดูแลค่าตัวแปรเคมีอื่น ๆ ยังคงเป็นสิ่งที่ลูกค้ายังต้องเหมือนกับอ่างระบบคลอรีน
การเลือกขนาดของระบบเกลือที่ติดตั้งในอ่างน้ำร้อน จะต้องมีการคิดคำนวณเพื่อเลือกติดตั้งระบบด้วยกำลังผลิตที่เหมาะสม เพราะหากลูกค้าทำการติดตั้งระบบเกลือแล้ว แต่เป็นระบบที่มีขนาดกำลังการผลิตคลอรีนที่น้อยกว่าปริมาณน้ำในอ่าง จะทำให้ไม่สามารถรักษาสภาพน้ำให้สะอาดต่อเนื่องได้ คลอรีนที่ผลิตออกมามีปริมาณต่ำ จะไม่สามารถควบคุมอัตราการเจริญเติบโตของสิ่งสกปรกได้อ่างน้ำร้อนได้ทัน ประเด็นในข้อนี้ หากลูกค้าได้มีโอกาศพูดคุยกับเจ้าของสระว่ายน้ำ จะพบว่า มีสระว่ายน้ำจำนวนมากที่มีการติดตั้งระบบเกลือขนาดเล็กกว่าปริมาณน้ำในสระ จึงทำให้ต้องกลับมาใช้คลอรีนที่เป็นชนิดก้อนเสริมเข้าไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในสระเสีย จากการทำงานของระบบเกลือที่เล็กจนเกินไป
ระบบเกลือไม่ได้เป็นระบบถาวร ระบบเกลือมีอายุการใช้งาน โดยขึ้นอยู่กับชั่วโมงการทำงานที่ทำการตั้งค่าของอ่างน้ำร้อนแต่ละอ่าง ทั้งนี้ระบบเกลือจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแท่งไทเทเนียม ที่เป็นหัวใจหลักในการผลิตคอลรีน ทุก ๆ 2 - 3 ปี ในขณะเดียวกัน หากเปรียบเทียบราคาระหว่างอ่างน้ำร้อนระบบเกลือ และ อ่างน้ำร้อนที่ไม่ได้ใช้ระบบเกลือ จะพบว่าอ่างน้ำร้อนระบบเกลือมีราคาจำหน่ายที่สูงกว่า นอกจากนี้ลูกค้าต้องเสียค่าใช้จ่าย ที่จะต้องเปลี่ยนแท่งไทเทเนียมในอนาคตเมื่อถึงกำหนดระยะเวลาการใช้งานอีกด้วย

การลงแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถสร้างคุณประโยชน์ต่อด้านร่างกายได้หลากหลาย โดยการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟู การบำบัด การบรรเทาอาการเจ็บปวด และ ปัญหาด้านสุขภาพได้ตามศาสตร์ของธาราบำบัด การแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน สามารถส่งผลให้เกิดประโยชน์ด้านสุขภาพ ได้จาก 3 ปัจจัยหลัก ดังต่อไปนี้
- ระบบนวดเจ็ท ( Hydrotherapy Jets Massage )
- อุณหภูมิของน้ำอุ่น ( Warm Water ) อุณหภูมิความร้อน 35 - 40 องศาเซลเซียส
- คุณประโยชน์จากแรงพยุงตัวของน้ำ ( Buoyancy )


ในบทความนี้ทางคิวแอนด์จี จะมานำเสนอแง่มุมคุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อน เพื่อใช้สำหรับการแช่น้ำอุ่นบริเวณพื้นที่ภายนอกบ้าน ที่จะส่งผลให้ข้อดีต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ( Privacy ) เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิต การเพิ่มระดับคุณภาพชีวิต การให้คุณค่าของความสุขอันพิเศษเฉพาะตน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้าน อันเป็นสถานที่ให้ความรู้สึกสบายใจได้ทุก ๆ วัน
เพื่อความผ่อนคลาย แบบส่วนตัว
คุณประโยชน์ของการเป็นเจ้าของอ่างน้ำร้อนภายนอกบ้าน คือ การสร้างพื้นที่ในการพักผ่อนแบบส่วนตัว โดยลูกค้าสามารถผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำที่บ้าน โดยไม่ต้องพบปะคลุกคลีกับบุคคลอื่นที่เราไม่ได้รู้จัก การผ่อนคลายในสถานที่ส่วนตัว เป็น ความสุข ด้วยการหลีกออกจากสังคมภายนอก ต่างไปจากการใช้บริการในสถานดูแลสุขภาพ เช่น ส่วนกลางสปาของโรงแรม รีสอร์ท บ่อน้ำอุ่นแบบรวม ศูนย์ธาราบำบัด บ่อน้ำแร่ออนเซ็น เป็นต้น